“ประวุฒิ” แถลงคดีระเบิดหน้าพารากอน ยังควานหากล้องซีซีทีวีเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมสองผู้ต้องสงสัยกับเหตุที่เกิดขึ้น นำไปสู่การขอออกหมายจับ เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา ทำให้เกิดความเสียหายและหวาดกลัว-ครอบครองวัตถุระเบิด
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายวางระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ว่า ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน ลักษณะเป็นชาวเอเชีย รูปร่างสันทัด สวมหมวกแก๊ปสีดำกับขาว นั่งอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุระเบิด และมีถุงต้องสงสัยอยู่ด้วย ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กำลังวิเคราะห์ภาพและตรวจสอบว่า ชายทั้งสองคนจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ เพราะอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุในขณะนั้นมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม อาจมีคนอื่นร่วมก่อเหตุมากกว่านี้ซึ่งต้องตรวจสอบจากกล้องตัวอื่นอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดว่าคนร้ายมาได้อย่างไร และมีสาเหตุอย่างไรนั้นยังไม่ทราบในขณะนี้
“ภาพคนร้ายที่ได้ยังไม่ชัดเจน เพราะกล้องอยู่ไกล เบื้องต้นผมมีข้อมูลเท่านี้ ทราบว่าขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับ เมื่อวานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เผื่อว่าจะมีลายนิ้วมือของคนร้ายอยู่บริเวณดังกล่าว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าออกหมายจับได้หรือยัง”
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า กล้องวงจรปิดไม่ได้ติดตั้งครอบคลุมทุกพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถจับภาพ 2 คนนั้นตั้งแต่เดินขึ้นมาบนสถานีรถไฟฟ้า และมานั่งอยู่จุดนั้น เช่น หากชายสองคนถือกระเป๋ามาแล้วมีช่วงจังหวะที่กระเป๋าเกิดหายไปก็อาจเป็นแนวทางสืบสวนได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ต้องรู้คนทำก่อน เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ต้องวิเคราะห์ ทั้งความขัดแย้งในพื้นที่ ธุรกิจ รวมทั้งการเมือง ซึ่งวิเคราะห์ยาก อาจไปเจอประเด็นที่ประชาชนเกิดความวิตกกังวลขึ้นได้ แต่ยืนยันว่าฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลความคืบหน้าพอสมควร เพียงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะจะกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อยากให้รอผลการทำงานของชุดสืบสวนก่อน
ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เมื่อปีที่ผ่านมาย่านมีนบุรีหรือไม่นั้น พบเพียงชิ้นส่วนของระเบิด ซึ่งเป็นท่อเหล็กขนาด 10 ซม. ยาว 20 ซม.ที่คล้ายกัน แต่วิธีประกอบต่างกัน และดินระเบิดที่ใช้ ขนาดของระเบิด รวมถึงวิธีการหน่วงเวลาก็ต่างกันด้วย อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ประกอบระเบิดสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ทั้งดินเทา ดินดำ หาซื้อและประกอบเองได้ หากใครที่สามารถประกอบประทัดได้ก็สามารถทำระเบิดชนิดดังกล่าวได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่กลุ่มใดเป็นพิเศษหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า พุ่งประเด็นสืบสวนไปยังกลุ่มที่ปฏิบัติงานใต้ดินที่ต้องการสร้างความเสียหาย และหวาดกลัวในสังคม แต่ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มใด และยังไม่แน่ชัดว่ามีกี่กลุ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้หลักฐานใดมัดตัวคนร้ายจนนำไปสู่การออกหมายจับ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จะใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด ประกอบกับพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ข้อหา คือ ทำให้เกิดความเสียหายและหวาดกลัว รวมทั้งครอบครองวัตถุระเบิด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการแจ้งเตือนถึงเหตุรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า มีเพียงการแจ้งเตือนกันภายใน เกี่ยวกับความวุ่นวายในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ที่อาจกระทบมาถึงประเทศไทยได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก็เฝ้าระวังอยู่ตลอด นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก พร้อมกำชับให้ตำรวจท้องที่เฝ้าระวังสถานที่ที่มีประชาชนรวมตัวจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ตลาดกลางคืน โดยเพิ่มกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเพิ่มความถี่ในการตรวจตราอย่างเข้มงวด
“การข่าวขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเตือนว่าจะเกิดเหตุเพิ่มเติม แต่ตำรวจก็เฝ้าระวัง พร้อมติดตามข่าวความไม่สงบทั้งภายในและนอกประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ในวันที่ 4 ก.พ.ถ้ามีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป”