xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” มั่นใจพยานหลักฐานระเบิดหน้าพารากอน ออกหมายจับมือวางบึ้มได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
“สมยศ” มั่นใจพยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุระเบิดหน้าพารากอน สามารถออกหมายจับมือวางบึ้มได้

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (2 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จากการประชุมคณะทำงานเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ข้อยุติว่าการให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ในฐานะโฆษกตำรวจแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้ข้อมูลต่างๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เก็บวัตถุพยานหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เชื่อว่าจากหลักฐานที่เก็บไว้ได้จะนำไปสู่การออกหมายจับและการจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้ สำหรับประเด็นการก่อเหตุมองไว้หลายประเด็น ทั้งการเมือง ทั้งการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตระหนกตกใจ รวมทั้งการข่มขู่ หรือประเด็นต่างๆ เรายังไม่ตัดทิ้ง ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะชี้ไปในทิศทางใด จนกว่าประเด็นใดจะมีความชัดเจนขึ้น จึงจะตัดประเด็นอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายการข่าวมีการแจ้งเตือนบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แจ้งผ่านตนก่อนหน้านี้ให้เฝ้าระวังจุดที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง รวมทั้งสถานที่ที่มีชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก

“เราไม่ได้เพิ่งจะมาเฝ้าระวัง แต่ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงที่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลก แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่เราก็เป็นประเทศเสรี เปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้ามาอย่างถูกต้อง สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่ทั้งนี้บางครั้งก็มีการลักลอบเข้ามา ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และเฝ้าระวังไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้น”

ต่อข้อถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องหรือไม่กับการที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะยกเลิกกฎอัยการศึก พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะคิดกันได้ แต่ส่วนตัวไม่คิดเช่นนั้น คิดว่าเป็นเรื่องที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลต้องการก่อความไม่สงบ หรือสร้างสถานการณ์น่าตระหนกตกใจให้แก่ประชาชน เป็นหน้าที่ของตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุเกิดขึ้นใจกลางเมืองเช่นนี้จะสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้อย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องหารือร่วมกัน ว่าจะมีมาตรการอย่างไร เพราะช่วงที่ผ่านเจ้าหน้าที่มีการผ่อนปรน ไม่ปรากฏตัวในเครื่องแบบในที่สาธารณะ เพื่อไม่สร้างความตึงเครียดให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว แต่ต้องยอมรับว่าคนที่จ้องจะก่อเหตุมีโอกาสมากกว่าคนเฝ้าระวัง ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น แต่ต่อไปอาจต้องจัดเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบให้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นจะต้องให้ทหารออกมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมด้วยหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ต้องถึงขั้นนั้น เพียงแต่จะจัดชุดตำรวจนอกเครื่องแบบให้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น

“เมื่อคืนรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงโทรมาให้คำแนะนำกับผม ว่าควรจะมีมาตรการอะไรบ้าง และสั่งการให้ผมแจ้งไปยังทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ล่อแหลม จึงได้สั่งการทางวิทยุไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อ 01.00 น.แล้ว ทั้งนี้เรื่องคดีได้ให้นครบาลเป็นผู้ดูแลเพราะมีคณะทำงานอยู่แล้ว”

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนเรื่องภาพคนร้ายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดนั้น ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่มั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุด จากพยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจะสามารถขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายได้เร็วๆ นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น