xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” เซ็นตั้งคณะทำงานปฏิรูป สตช. ชี้ ปชช.ต้องได้ประโยชน์-รับฟังความคิดเห็นตำรวจ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.
ผบ.ตร. มีคำสั่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางปฏิรูปองค์กรตำรวจ ยันไม่ได้คัดค้าน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น ชี้หากปฏิรูป ปชช. ต้องได้ประโยชน์ การทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพดีขึ้น และต้องรับฟังความคิดเห็นตำรวจ

วันนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 40/2558 ลงวันที่ 20 มกราคม เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางปฏิรูปตำรวจ โดยระบุว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งได้มีการพิจารณาและเสนอแนวความคิดในการปฏิรูปองค์กรตำรวจในด้านต่างๆ เพื่อให้การปฏิรูปองค์กรตำรวจ สามารถแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของตำรวจได้อย่างแท้จริง และการปฏิรูปก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางปฏิรูปองค์กรตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ และพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน มีจเรตำรวจแห่งชาติ รอง ผบ.ตร. ที่ปรึกษา (สบ10) ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทุกท่าน ผบช.น. ผบช.ภ.1 ผบช.ภ.2 ผบช.ภ.7 ผบช.ก. ผบช.ตชด. ผบช.ปส. ผบช.กมค. ผบช.สยศ. ผบช.งป. ผบช.สง.กตร. เป็นคณะทำงาน ผบช.สกพ. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ มี พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผบช.สกพ. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบช.สยศ.ตร. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ ผบก.อต. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ พ.ต.อ.ปรีชา สถาวร รองผบก.อต. เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ และ ผกก.กลุ่มงานวิเคราะห์และพัฒนาระบบงาน กองอัตรากำลัง เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ

ขณะเดียวกัน มีคณะทำงานย่อยในด้านต่างๆ 6 คณะ ได้แก่ 1. ด้านแนวทางการกระจายอำนาจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รอง ผบช.สกพ. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ 2. ด้านการถ่ายโอนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปให้หน่วยงานอื่นของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เป็นคณะทำงานและเลขานุการ 3. ด้านองค์กรกำหนดนโยบาย ควบคุม กำกับดูแล และการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นคณะทำงานและเลขานุกา 4. ด้านการให้ท้องถิ่นและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ 5. ด้านกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.ท.วัฒนา สักกวัตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รองหัวหน้าคณะทำงาน ผู้บังคับการกองกฎหมาย เป็นคณะทำงานและเลขานุการ 6. ด้านการรับฟังความคิดเห็นและการประชาสัมพันธ์ โดย พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน/ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

และมีที่ปรึกษา ประกอบด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล อดีตรอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. และผู้แทนคณะอนุฯ ก.ตร. คณะต่างๆ

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ บช.น., ภ.1-9 และ ศชต. จัดสัมมนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นข้าราชการตำรวจและผู้เกี่ยวข้อง โดยเชิญบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาให้ข้อมูล และข้อเสนอแนะ เพื่อส่งข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางปฏิรูปองค์กรตำรวจนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้น เกิดขึ้นภายหลังที่ตนเองได้เดินทางไปร่วมรับฟังแนวทางการปฏิรูปตำรวจของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จนทราบประเด็นที่จะมีการปฏิรูปว่ามีประเด็นใดบ้าง จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานในส่วนของตำรวจขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมข้อมูลในแต่ละด้านเตรียมพร้อมไว้ หากคณะกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจของรัฐบาล เปิดรับฟังความคิดเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้มีข้อมูลนำเสนอได้ทันที นอกจากนี้เตรียมตั้งศูนย์ประสานงานและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะตำรวจ ส่วนคณะทำงานย่อยแต่ละชุดก็สามารถไปจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นในด้านที่รับผิดชอบ ก่อนที่จะมีการจัดสัมมนาใหญ่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้คัดค้านการปฏิรูป เราพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ขอว่าในการปฏิรูปประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด การทำงานของตำรวจต้องมีประสิทธิภาพสามารถดูแลได้ทุกมิติ และขอให้รับฟังความคิดเห็นของตำรวจด้วย

“โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยกับการปฏิรูปในหลายประเด็น อย่างการถ่ายโอนภารกิจของ ตร. ไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพราะปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับที่ตำรวจเองก็ไม่อยากจะถือไว้ แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ไม่พร้อมที่จะรับโอนไป หรือรับไปเฉพาะส่วน แบบครึ่งๆ กลางๆ หากมีการวางแนวทางที่ชัดเจนในการถ่ายโอนตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนเรื่องที่ไม่เห็นด้วย คือ การปฏิรูปอย่างสุดโต่ง อย่างเรื่องที่มีการเสนอให้มีการกระจายอำนาจเหมือนในประเทศอังกฤษหรือฝรั่งเศส ตรงนี้ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าสำหรับประเทศไทยเรายังไม่มีความพร้อมขนาดนั้น ขณะเดียวกัน สภาพปัญหาที่มีก็ไม่เหมือนกัน ผบ.ตร.ควรมีอำนาจในการสั่งการหน่วยต่างๆ ได้บ้าง ไม่ใช่กระจายอำนาจไปทั้งหมด” ผบ.ตร. กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น