สน.พระอาทิตย์
ประกาศในวันที่ 9 ม.ค. และมีผลพร้อมกันวันที่ 15 ม.ค. จึงน่าจะช่วยลดอาการ “เกียร์ว่าง” ได้พอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังลูกผีลูกคนที่มีลุ้น อาจจะโดนหรืออาจไม่โดน หรือลุ้นโดนไกลมาเป็นโดนใกล้ และหันมาทุ่มเท
ในที่สุด โผแต่งตั้ง “นายพัน” สีกากี ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน หมายมั่นปั้นมือจะให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ มีอันต้องโดนโรค “เลื่อน” เล่นงานตามระเบียบ บัญชีทั้งหมดทุกตำแหน่งถูกยกยอดไปดำเนินการหลังปีใหม่ 2558
ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ตีตราประทับเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอขยายเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ สารวัตร (สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ทั่วประเทศ ประจำปี 2557 ออกไปจากเดิมมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2557 ไปเป็นภายในวันที่ 15 ม.ค. 2558
แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน แจกแจงเหตุผลความล่าช้าที่เกิดขึ้นว่า “เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ยังมีบางตำแหน่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบถึงความเหมาะสมหลายประการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายแล้วเสร็จไปแล้วกว่า ร้อยละ 90 แต่ยอมรับว่ามีบางตำแหน่งต้องรอผลการตรวจสอบและไกล่เกลี่ยตำแหน่งต่างๆ เพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน”
แม้ “พล.ต.อ.สมยศ” จะไม่ได้เจาะจงลงรายละเอียด ว่าชนวนเหตุบางตำแหน่งต้องรอผลการตรวจสอบ และไกล่เกลี่ยตำแหน่งต่างๆ เกี่ยวพันกับการป่วนโผ “นายพัน” ของ “จ.หวานเจี๊ยบ” หรือไม่ แต่การเลื่อนระยะเวลาการแต่งตั้งออกไปข้ามปี ก็ดูจะสอดคล้องกับกระแสข่าวที่มีตลอดก่อนหน้านี้
โดยเฉพาะถ้ายึดกันตามข้อมูลที่พล.ต.อ.สมยศ แจกแจงเหตุผลความล่าช้าที่เกิดขึ้น รวมทั้งข่าวคราวความเคลื่อนไหวการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “สว.- รอง ผบก.” จนถึง ณ ขณะนี้ บัญชีการแต่งตั้งใกล้ลงตัว อย่างที่แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวันบอกไว้ว่าเรียบร้อยไปแล้วกว่า ร้อยละ 90 จริงๆ เพราะอาการโผปั่นป่วนจากรายการ “สอดไส้” ของ “จ.หวานเจี๊ยบ” ที่เล่นเอากองบัญชาการเมืองกรุง ควันออกหู ถึงขนาดมีสวนสัตว์เกิดขึ้นใหม่ขนาดย่อมๆ ได้รับการคลี่คลายจากเสียงกำชับ “พี่ใหญ่บ้านบิ๊กบราเธอร์” ให้พูดคุยกันอย่าให้เกิดปัญหา แม้จะไม่ทำให้คนเมืองกรุงหายเคือง “ป.แป๊ะ” ที่อยู่เบื้องหลัง “จ.หวานเจี๊ยบ” แต่ก็ทำให้เบาบางลง ตามสูตรยอมกันบางตำแหน่ง ปฏิเสธกันบางคน “วิน-วิน” ทุกฝ่าย!!!
ซึ่งเมื่ออาการปั่นป่วนกลับมา “ลงตัว” ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว หากจะเข้าเกียร์ 5 เดินหน้าออกคำสั่งแต่งตั้ง “สว.-รองผบก.” ให้ทันตามปฏิทินที่วางกรอบไว้ ทุกคำสั่งประกาศในวันที่ 29 ธ.ค. 2557 และมีผลพร้อมกันวันที่ 5 ม.ค. 2558 ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ที่สำคัญ การเลื่อนออกไปเพียงแค่ 15 วัน ตามหลักการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ไม่น่าจะช่วยอะไรได้มากนัก ยิ่งพอ “พล.ต.อ.สมยศ” ทำบันทึกข้อความด่วนที่สุด ส่งไปถึง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ให้คำสั่งแต่งตั้งทั้งหมดต้องเสร็จสิ้นวันที่ 9 ม.ค. 2558 และคำสั่งมีผลพร้อมกันวันที่ 15 ม.ค. 2558 โดย ก.ตร. จะนัดประชุมพิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งระดับ ผู้กำกับการ (ผกก.) ขึ้นไป ตามประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 7 ม.ค. 2558
ย่อมแสดงว่า บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายทุกกองบัญชาการ โดยเฉพาะระดับ ผกก.- รอง ผบก. ต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 5 หรือ 6 ม.ค. เพราะต้องส่งบัญชีรายชื่อให้สำนักงานกำลังพลตรวจสอบคุณสมบัติ และรอเสนอบัญชีให้ ก.ตร. พิจารณา เมื่อผนวกกับช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ราชการเริ่มทำงานกันในวันที่ 5 ม.ค. บัญชีแต่งตั้งก็คงไม่ได้ปรับแก้อะไรกันมากนัก
เหตุใดต้องเลื่อนแต่งตั้ง สว.- รอง ผบก. ไปอีก 15 วัน??
คำตอบ อย่างเป็นทางการ ก็คงต้องเป็นไปตามที่ พล.ต.อ.สมยศ อธิบายยืนยันไว้ตั้งแต่ต้น คือ มีบางตำแหน่งต้องรอผลการตรวจสอบและไกล่เกลี่ยตำแหน่งต่างๆ เพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน แต่ถ้าตอบกันตามกระแสข่าวที่สะพัดอยู่ในแวดวง “สีกากี” อยู่กันตอนนี้ ก็คงจะต้องบอกว่าเลื่อน เพราะป้องกันเกียร์ว่าง
ว่ากันว่า หากคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวประกาศออกมาวันที่ 29 ธ.ค. และคำสั่งมีผลพร้อมกันวันที่ 5 ม.ค. ในช่วงเทศกาลปีใหม่ “ตำรวจ” ซึ่งตามหน้าเสื่อมีภารกิจหนักในการดูแลอำนวยความสะดวกการจราจร และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน บางส่วนที่ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง อาจหมดกำลังใจในการทำงาน และขาดความทุ่มเทในการทำหน้าที่ หากเป็นไปตามนั้น อาการ “เกียร์ว่าง” ก็จะส่งกระทบต่อ พล.ต.อ.สมยศ และผู้บัญชาการ โดยตรง
โดยเฉพาะในช่วงการแต่งตั้งครั้งนี้มีข่าวคราวมาตลอด จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยเฉพาะกลุ่มที่พัวพันเกี่ยวกับเรื่องป้ายไฟบนป้อมจราจรตำรวจ ที่ “ผกก.” กว่า 40 - 50 โรงพัก ถูกตั้งกรรมการสอบสวน และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ จะถูกโยกย้ายออกนอกหน่วยจำนวนมาก ซึ่งแต่ละเก้าอี้ที่มีข่าวจะโดนเตะโด่ง ล้วนอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ และใกล้ชิดประชาชนอย่างมาก
ถ้าพร้อมใจ “เบี้ยว” ขึ้นมาพร้อมๆกัน แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน ใช้แขนก่ายหน้าผากอย่างเดียวคงไม่พอแน่
การเลื่อนคำสั่งแต่งตั้งออกไปให้มาประกาศในวันที่ 9 ม.ค. และมีผลพร้อมกันวันที่ 15 ม.ค. จึงน่าจะช่วยลดอาการ “เกียร์ว่าง” ได้พอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังลูกผีลูกคนที่มีลุ้น อาจจะโดนหรืออาจไม่โดน หรือลุ้นโดนไกลมาเป็นโดนใกล้ และหันมาทุ่มเทสร้างผลงานก็เป็นได้
เรียกว่า ให้โอกาส “ตำรวจ” ที่โดนย้ายได้ลุ้นอีกรอบ และ พล.ต.อ.สมยศ เองก็ไม่ต้องลุ้นลูกน้องจะพร้อมใจ “เกียร์ว่าง” ให้เหงื่อตกช่วงปีใหม่
