“สมยศ” เผยยังไม่ตัดสินใจเลือกใครนั่งเก้าอี้ ผบช.ก. คนใหม่ ย้ำต้องทำงานสนองนโยบายรัฐบาลได้ดี คาดได้ตัว หลังแต่งตั้งนายตำรวจระดับสารวัตร-รองผู้บังคับการแล้วแสร็จ ยันเอาผิดก๊วน “พงศ์พัฒน์” ถึงที่สุด ทั้งถอดยศ - ยึดคืนเครื่องราชฯ ล่าสุด ศาลอนุมุัติหมายจับ “ทรงพล” คนสนิท “พล.ต.ต.โกวิทย์” และ “พ.ต.ท.ทรงรักษ์” คนสนิทอดีต ผบช.ก. แล้ว
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผบช.ก. คนใหม่แทน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ว่า ตำแหน่ง ผบช.ก. ที่ว่างอยู่ถึงอย่างไรก็ต้องแต่งตั้งเข้าไปทดแทนแน่นอน ส่วนที่ตนสั่งให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ไปรักษาราชการแทน ผบช.ก. นั้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และทำงานเป็นที่ประจักษ์ว่าทำได้ดี ดังนั้น เมื่อถึงเวลาตนก็ต้องแต่งตั้งคนที่จะมาทำหน้าที่ ผบช.ก. ตัวจริงอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ก็มองๆ อยู่ อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่ ทั้งนี้ จะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนคงไม่ได้ตัดสินใจเพียงลำพัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช่ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก. ที่มีข่าวว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ก. คนใหม่ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ฐิติราช หรือบุคคลท่านอื่นที่อยู่ในข่าย ล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เป็นได้ทุกคน ในส่วนของ พล.ต.ต.ฐิติราช ก็เป็นรอง ผบช.ก. ซึ่งมีความรู้ความสามารถ ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ หรือ รอง ผบช.ก. ท่านอื่นๆ ก็สามารถทำหน้าที่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกคนที่อยู่ในหรือนอกหน่วยงานสอบสวนกลางขึ้นมาเป็น ผบช.ก. คนใหม่ แต่ถึงที่สุดแล้วหากต้องตัดสินใจก็จะเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และสามารถทำงานสนองนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี สำหรับกำหนดการแต่งตั้งนั้น ต้องรอให้การแต่งตั้งตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการเสร็จสิ้นไปก่อน แล้วจึงจะดำเนินการ นอกจากนี้ อาจมีการแต่งตั้งผู้เข้ามารักษาการ ผบช.ก. แทน พล.ต.ท.ประวุฒิ ก็เป็นได้ หากว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อสำนักงานสอบสวนกลาง และพี่น้องประชาชน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับบรรยากาศใน บช.ก. ยังคงปกติดี เนื่องจาก พล.ต.ท.ประวุฒิ มีการประชุมชี้แจงอธิบายทำความเข้าใจกับข้าราชการตำรวจในสังกัด ไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจ เพราะตนมีนโยบายชัดเจนให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานอย่างเคร่งครัด ไม่กลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายป้ายสี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจในสังกัด บช.ก. ได้ขอย้ายออกบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ให้ไปถาม พล.ต.ท.ประวุฒิ ซึ่งรักษาการ ผบช.ก. ตนจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงาน ส่วนกรณีหนังสือเวียนถามข้าราชการตำรวจว่าใครอาสาเข้ามาอยู่ บช.ก. หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มีหนังสือดังกล่าวอย่างแน่นอน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกา ผู้ที่มีความรู้ความสามารถทำงานได้ก็มีสิทธิ์ทุกคนที่จะเข้ามา ทั้งนี้ เรื่องโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเรื่องปกติขององค์กร ถ้าไม่โยกย้ายคือผิดปกติ
ส่วนกรณีการสอบสวนทางวินัยผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจในเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานผลสรุปการสอบสวนทางวินัยของทางจเรตำรวจ แต่ทุกอย่างดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถ้าหากการสอบสวนพบว่ามีมูลความผิดตามที่มีการกล่าวหา ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ไม่ว่าจะปลดออก ให้ออก หรือไล่ออก แล้วแต่ความผิดที่พนักงานตรวจสอบส่งขึ้นมาว่าอยู่ในขั้นใด แต่ตอนนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานดังกล่าว ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้หากพบข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป เช่น อาจต้องดำเนินการถอดยศ คืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น ซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินการระบุอยู่ในระเบียบทั้งสิ้น ขอยืนยันว่าทุกอย่างจะทำไปตามขั้นตอนของกฎหมายและพยานหลักฐานที่ปรากฎ ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือล้างบางใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีนายตำรวจเกี่ยวข้องกับขบวนการ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อีกจำนวนมากแต่สุดท้ายก็ไม่พบ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่มีความคิดความเห็นปรากฏออกไปตามสื่อมวลชน ทางตำรวจไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือแถลงระบุชัดเจนว่ามีนายตำรวจสิบคนยี่สิบคนหรือห้าสิบคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดในครั้งนี้ โดยหลังจากการสอบสวนทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ เมื่อเขาไม่ผิดก็คือไม่ผิด ถ้าสอบสวนพบว่าเขาผิดก็ต้องดำเนินการ ตรงนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตจะป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กรณีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นเรื่องของบุคคล เป็นเรื่องของมนุษย์ ถ้ามนุษย์ไม่มีความโลภโกธรหลง ไม่มีซึ่งกิเลสตัณหา เรื่องดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานแจ้งว่า ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับ นายทรงพล ทองสิน คนสนิทของ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก. ตามหมายจับเลขที่ 2263/2557 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2557 ในฐานความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ขณะที่วันเดียวกันศาลอาญารัชดาก็ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 2264/2557 ให้จับกุม พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6 บก.ป. ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินเช่นเดียวกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลบหนีไม่ยอมมารายงานตัวตามหมายเรียกเข้าให้ปากคำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งถูกออกหมายจับดังกล่าว