ผบก.สส.บช.น.เผยความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีน้องชาย “เสี่ยโจ้” ร้องขอความเป็นธรรม อ้างพี่ชายไม่มีเอี่ยวธุรกิจน้ำมันเถื่อน อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยังไม่เรียกเจ้าตัวมาให้ข้อมูลเพิ่ม ส่วนสำนวนการสอบสวนคดี “พงศ์พัฒน์” หมิ่นเบื้องสูงส่งไปยัง สตช.แล้ว หากไม่สั่งให้สอบเพิ่มก็พร้อมสรุปสำนวนส่งให้อัยการ
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. กล่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายวรากร เจียรเสริมสิน หรือโจ อายุ 41 ปี น้องชายของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ มาร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชายที่ บช.น. พร้อมยืนยันว่าพี่ชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนว่า เบื้องต้นยังไม่มีการเรียกตัวน้องเสี่ยโจ้มาให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ และสำเนาการโอนเงิน เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 51 และ 23 ก.ย. 52 และตรวจสอบสลิปเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค. 55 รวมเป็นเงิน 110,000 บาทก่อน ส่วนการติดตามผู้ต้องหาอีก 3 รายที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.พระโขนง คดีก่อเหตุข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท โดยมีนายปรีชา ดาราไตร เป็นผู้จ้างวาน นายไพเชษฐ์ เมธีสริยพงศ์ เป็นผู้ประสานงานและเจ้าของบ้านที่อุ้มเหยื่อไปกักขัง และนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ลูกหนี้ที่จ้างวานให้ไปข่มขู่เจ้าหน้าหนี้ให้ลดหนี้จาก 120 ล้าน เหลือ 20 ล้านซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดี เพราะผู้ต้องหายังไม่ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่เพื่อขอมอบตัวแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เปิดเผยถึงกรณีคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ว่าสำนวนที่ สน.วัดพระยาไกร และสน.พระโขนง ได้ส่งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะส่งสำนวนกลับมาที่ บช.น. หากไม่มีคำสั่งให้สอบสวนกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมจะส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนท้องที่สรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำนวนเกี่ยวกับอดีต ผบช.ก.ที่ส่งไปยัง ตร. ประกอบด้วย 3 สำนวน คือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน สำนวนคดีบ่อนการพนัน ซึ่งยังไม่ได้รับคำสั่งมาจาก ตร.ทั้งสิ้น ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่สามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรณีแอบอ้างเบื้องสูง ทางเจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนส่งไปยัง ตร.ให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวภายในวันที่ 22 ธ.ค.นี้