ฝ่ายกฎหมาย สตช.เร่งพิจารณาสำนวนคดี “พงศ์พัฒน์” พร้อมพวก แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัว รวม 5 สำนวน คาดส่งอัยการได้เร็วๆ นี้ขณะที่หุ้นส่วน “สุดาทิพย์” แอบอ้างสถาบันทำธุรกิจค้าอาหาร ปฏิเสธข้อหาถูกนำชื่อมาจดทะเบียนโดยไม่มีส่วนได้เสีย
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสำนวนคดีหลัก 5 สำนวนของเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.และพวก ผู้ต้องหาในคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัว รวมทั้งมีพฤติกรรมข่มขู่เพื่อทวงและลดหนี้ ตลอดจนความผิดอื่นๆอีกหลายคดีว่า คณะกรรมการคดีหมิ่นฯ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนมาถึงตนแล้ว ขณะนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ตร.กำลังเร่งตรวจสอบสำนวนคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เกี่ยวกับความถูกต้องของสำนวนทั้งหมดโดยละเอียดรอบคอบ เพื่อเตรียมส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป โดยจากการตรวจสอบไม่พบปัญหาข้อขัดข้องแต่อย่างใดภายในสำนวน คาดว่าจะสามารถส่งให้พนักงานอัยการได้ในเร็วๆนี้
มีรายงานว่า สำหรับสำนวนคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีทั้งหมด 5 สำนวนหลัก คือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจสังกัด, สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน, สำนวนคดีการบุกรุกป่าไม้, สำนวนคดีบ่อนการพนัน, และ สำนวนคดีการฟอกเงิน ทั้งนี้ ทุกสำนวนคดีมีข้อหาการเรียกรับสินบนและข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 เชื่อมโยงอยู่ในการกระทำความผิดทั้งสิ้น
ขณะที่ น.ส.ปาลิตา หลักเฉลิมพร ที่มีชื่อปรากฏร่วมธุรกิจนำส่งอาหารเข้าวัง กับนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล นั้น น.ส.ปาลิตาได้เข้าให้ปากคำที่ สน.สามเสนเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเอกสารมายื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ทราบแค่ว่านางสุดาทิพย์นำชื่อตนมาจดทะเบียนในนามบริษัทค้าอาหารเท่านั้น เมื่อถามจากบุคคลภายในครัวข้าราชบริพารที่วังอัมพร และวังศุโขทัย ทุกคนให้การว่าไม่เคยเห็น น.ส.ปาลิตา หรืออาจจะเห็นบ้างบางครั้งในขบวนเสด็จเท่านั้น ที่ผ่านมา น.ส.ปาลิตาเคยจะมายื่นเอกสารว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางสุดาทิพย์ แต่ก็ขาดการติดต่อ หากพบว่าเอกสารที่ น.ส.ปาลิตามายื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นอื่นๆ หรือมีส่วนเชื่อมโยงก็สามารถเรียกตัวมาสอบสวนได้ทันที แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบเบาะแสอะไรของ น.ส.ปาลิตาที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบรายละเอียดของราคาค่าอาหารของนางสุดาทิพย์ต่อไป
ส่วนเรื่องโผการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับรอง ผบก. ผกก และ รอง ผกก. ขณะนี้ได้คัดเลือกรายชื่อที่เหมาะสมแล้ว และดำเนินการส่งต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ก่อนจะมีคำสั่งออกมาชัดเจนในวันที่ 29 ธ.ค. 57 โดยจะบังคับใช้ในวันที่ 5 ม.ค. 58