โบรกเกอร์ตลาดทรัพย์ 30 รายแห่แจ้งจับลูกชายกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดดีเอสไอ หลอกขายหุ้นเสียหาย 300 ล้าน อ้างถูก ปปง.อายัดเงินไว้ หลังตรวจสอบมีผู้เสียหายนับ 100 รายที่ถูกหลอกมูลค่าความเสียหาย 1,000 ล้านบาท
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มโบรกเกอร์และผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงซื้อ-ขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกว่า 30 ราย เข้าพบ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายปาณสาร สมชีวิตา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ซ.ปานทิพย์ 1 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน พร้อมทั้งนำเอกสารซึ่งเป็นสลิปโอนเงินมามอบให้เพื่อประกอบสำนวนคดี
ผู้เสียหายซึ่งเป็นโบรกเกอร์ รายหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุลให้การว่า ก่อนหน้านี้ นายปาณสารอ้างว่า มีหุ้นที่อยู่ในพอร์ตของเขาชื่อ บริษัท เอเชีย เวลท์ โฮลดิ้ง จำกัด เช่น คาราบาวแดง VPO.MTLS. JSP. ฯลฯ จำนวนหลายล้านหุ้น จึงอยากกระจายขายผ่านโบรกเกอร์ เพราะหุ้นพวกนี้ยังไม่เปิดขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งน่าสนใจมีแนวโน้มว่าจะได้กำไร จึงมีการระดมทุนซื้อไว้ พร้อมทั้งโอนเงินให้เขาไป โดยการซื้อขายหุ้นดังกล่าวในวงการหุ้นเรียกว่าการซื้อขายหุ้นนอกตลาดซึ่งมีความเสี่ยงเพราะไม่มีใบหุ้น แต่ที่ตัดสินใจซื้อขายเพราะเห็นว่าเคยซื้อขายกับนายปาณสารมาก่อน
ผู้เสียหายรายเดิมกล่าวต่อว่า เมื่อหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วและราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นพวกตนจึงแจ้งขายหุ้นต่อ แต่ปรากฏว่านายปาณสารอ้างว่าโอนเงินค่าขายหุ้นให้ไม่ได้เพราะติดขัด จากนั้นเมื่อทวงถามเขากลับอ้างว่าถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อายัดเงินไว้ จากนั้นมาทราบว่ามีคนถูกนายปาณสารหลอก 30 กว่าราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท จึงรวมตัวกันไปตรวจสอบกับ ปปง.พบว่าไม่ได้มีการอายัดเงินตามที่เขากล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงนัดเคลียร์กันเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเขารับปากว่าจะจ่ายเงินค่าเสียหายให้ เพราะพ่อไปยืมเงินมาให้แล้ว แต่พอคุยไปคุยมาเขากลับมีเงินแค่ 90 ล้าน ไม่พอจ่ายค่าเสียหาย หลังจากนั้นก็พยายามติดต่อเขาแต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทราบว่ามีเหยื่อนับ 100 รายที่ถูกหลอกซื้อขายหุ้นลักษณะดังกล่าว มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้าน ในส่วนของตนเองโดนไป 20 กว่าล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายปาณสารนั้นเป็นบุตรชายของอดีตปลัดกระทรวงหนึ่ง และปัจจุบันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (บอร์ดดีเอสไอ) อีกด้วย
ด้าน ร.ต.ท.ปรีชากล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ ก่อนสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป