รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายและเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ในวันครบรอบ 40 ปีของกรมบังคับคดี ยอมรับมีข้อมูล จนท.ดีเอสไอบางรายรับส่วยธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน “เสี่ยโจ้” ประสาน ผบ.ตร.รายชื่อเปรียบเทียบ ปปง.เดินหน้าตามยึดทรัพย์แล้ว
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่กรมบังคับคดี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ในวันครบรอบ 40 ปีของกรมบังคับคดี พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า มี 3 ประเด็นที่ต้องการให้ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดีดำเนินการ ได้แก่ 1. เร่งดำเนินการนำทรัพย์สินที่ศาลตัดสินแล้วและถูกบังคับคดีนำไปประมูลได้ในทุกพื้นที่ไม่จำเป็นว่าต้องประมูลเฉพาะเขตพื้นที่ศาลใดศาลหนึ่งซึ่งจะต้องมีการหารือกับศาลยุติธรรมก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชน 2. กรณีการลงทุนระหว่างประเทศซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือมาที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ล้มละลายให้เอื้อต่อการลงทุนระหว่างประเทศ เนื่องจากของเดิมใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483
และ 3. กรณีการไกล่เกลี่ยคดีที่มีปัญหาระหว่างสถาบันการเงินกับลูกหนี้ โดยจะให้กรมบังคับคดีประกาศเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อโต้แย้งก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละสถาบันการเงินว่าต้องการให้กรมบังคับคดีเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยหรือไม่
นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรมได้กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบุคคลที่มีความเชื่อมโยงในการกระทำผิดร่วมกับกลุ่มอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในส่วนการรับสินบนน้ำมันเถื่อนว่า ตนได้รับรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายสหชัย เจียรเสริมสิน นักธุรกิจภาคใต้แล้ว เป็นข้อมูลที่ดีเอสไอได้มาจากการติดต่อทางโทรศัพท์ของเสี่ยโจ้ โดยใบรายชื่อมีความหนาพอสมควร ทั้งนี้ในรายชื่อดังกล่าวมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือนร่วมด้วย ตนจะนัดหมายพบกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อนำรายชื่อมาเปรียบเทียบกันว่ามีชื่อใดที่ตรงกันบ้าง ส่วนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นั้น ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อติดตามทรัพย์เพิ่มแล้ว