xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” สั่งตั้ง กก.สอบวินัย “พงศ์พัฒน์” กับพวกรวม 7 นาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
“สมยศ” เซ็นตั้งกรรมการสอบวินัย “พงศ์พัฒน์” กับพวกรวม 7 นาย หากพบตำรวจอื่นมีเอี่ยวให้รายงานด่วน

วันนี้ (24 พ.ย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 633/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย. 2557 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยระบุว่า ตามที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงค์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ปฏิบัติราชการศปก.ตร. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 ปคบ. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร.ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. และด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป.ต้องคดีอาญาแล้วได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เลขที่ 632/2557 ไปแล้วนั้น

อาศัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 86 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าวประกอบด้วย พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.จักกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ รองจเรตำรวจ (สบ 7) พล.ต.ต.ไพบูลย์ อุดมสินค้า ผบก.กต.9 จต. พ.ต.อ.ชยธวัส เสาวนะ รอง ผบก.กต.9 จต.เป็นกรรมการ พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤติยา ผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 เป็นกรรมการและเลขานุการ พ.ต.ท.วณัฐศ์ ชาลประเสริฐ สว.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 จต.เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม. มีคำสั่งเลขที่ 257/ 2557ลงวันที่ 23 พ.ย. 2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล ผกก.จว.สมุทรสาคร ประกอบด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย โล่กันภัย รองผบก.ตม. 3 พ.ต.อ. วีรยศ การุณธร ผกก.กองกำกับการบริการคนต่างด้าว บก.ตม.3 พ.ต.ท.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.กองกำกับการบริการคนต่างด้าว บก.ตม.3 เป็นกรรมการ พ.ต.ท.ยุทธนา ราชจันทร์ สว.ตม.จว.นครปฐม บก.ตม.3 เป็นกรรมการและเลขานุการ และร.ต.อ.นพรัตน์ ศิริมุสิกะ รอง สว.ตม.จว.นครปฐม บก.ตม.3 เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุดดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. 2557 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาต่อไป หากคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดวินัยร้ายแรงในเรื่องอื่น นอกจากที่ระบุในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนไปพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการมีความเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนกระทำความผิดในเรื่องที่สอบสวนนั้น ให้ประธานรายงานมาให้ทราบโดยเร็ว

คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่ 633/ 2557
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน

ด้วย พลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ (ให้ออกจากราชการไว้ก่อน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 พลตำรวจตรีโกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ (ให้ออกราชการไว้ก่อน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 พลตำรวจตรี บุญสืบ ไพรเถื่อน (ให้ออกจากราชการไว้ก่อน) เมื่อ ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกล่าวหาที่ 3 พันตำรวจเอก วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ (ให้ออกจากราชการไว้ก่อน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ดาบตำรวจ สุรศักดิ์ จันทร์เงา (ให้ออกจากราชการไว้ก่อน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และ ดาบตำรวจ ฉัตรินทร์ เหล่าทอง (ให้ออกจากราชการไว้ก่อน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด วินัยอย่างร้ายแรง ดังนี้

1. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีกรณีต้องหาคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 148, 149 และ 157 ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน (ถั่วครอบ) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 และฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 ตามคดีอาญาที่ 98/2557, 99/2557, 100/2557 และ 101/2557 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ของกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม

2. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีกรณีต้องหาคดีอาญาข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 และฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 ตามคดีอาญาที่ 99/2557 และ 101/2557 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ของกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม

3. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 มีกรณีต้องหาคดีอาญาข้อหาเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149 และ 157 ตามคดีอาญาที่ 100/2557 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ของกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 86 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้

1. พลตำรวจเอก ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ
2. พลตำรวจโท ชินทัต มีศุข จเรตำรวจ (สบ 8) เป็นกรรมการ
3. พลตำรวจตรี จักรกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ รองจเรตำรวจ (สบ 7) เป็นกรรมการ
4. พลตำรวจตรี ไพบูลย์ อุดมสินค้า ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 9 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ
5. พันตำรวจเอก ชยธวัช เสาวนะ รองผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 9 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ
6. พันตำรวจเอก ทรงกลด เกริกกฤติยา ผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 9 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ(เป็นผู้ได้รับปริญญาทางกฎหมาย)
7. พันตำรวจโท วณัฐพงศ์ ชาลประเสริฐ สารวัตร ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 9 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมสอบสวนดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการ สอบสวนพิจารณาดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว

สั่ง ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พลตำรวจเอก (สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง)
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ


กำลังโหลดความคิดเห็น