ผบ.ตร. สั่งยุบชุดเฉพาะกิจตำรวจทั้ง 16 ศูนย์ เพื่อป้องถูกครหาแสวงหาผลประโยชน์และทำงานซ้ำซ้อน พร้อมเตือนกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องต่างๆ อย่าเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวาย พร้อมสั่งตำรวจสันติบาลและ บช.น. จับตาหาข่าวกลุ่มฮาร์ดคอร์ก่อความวุ่นวายใกล้ชิด
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการผ่านวิทยุในราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ให้ยกเลิกชุดเฉพาะกิจทุกชุดที่ตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติงานในศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ของ ตร. ทั้งหมด 16 ศูนย์ เพื่อป้องกันปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน และป้องกันการถูกสังคมมองว่าตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ที่มำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย แต่หากมีความจำเป็นต้องตั้งชุดเฉพาะกิจให้เสนอ ผบ.ตร. พิจารณา
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ 16 ศูนย์ ตามคำสั่ง ตร. อาทิ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ศูนย์ป้องกันปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น ซึ่งศูนย์เหล่านี้บางศูนย์มีการตั้งชุดเฉพาะกิจออกปฏิบัติงานด้วย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการสำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สยศ.ตร.) มีวิทยุในราชการ ศปก.ตร. สั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำรวจหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน โทร. ฉุกเฉิน ร้องทุกข์ร้องเรียนด้านสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา โรงพยาบาล มูลนิธิ หรือสถานที่สำคัญ ว่าวามารถติดต่อ จอรับบริการได้หรือไม่ มีเจ้าหน้าที่รับบริการตลอดเวลาหรือไม่ เพื่อเป็นการตอบสนองการดูแลพิทักษ์รับใช้ประชาชน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มและองค์กรต่างๆ ออกมาแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนในเรื่องต่างๆ อาทิ การเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน ตลอดจนการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ว่า อยากจะขอเตือนว่าบุคคลทุกกลุ่มทุกองค์กรสามารถจะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ แต่ต้องไม่ออกมาเคลื่อนไหวให้เกิดความวุ่นวายหรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ อีกทั้งตนยังได้สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ติดตามหาข่าว พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มต่างๆ ที่มีแนวโน้มออกมาเคลื่อนไหวซึ่งอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ โดยเฉพาะตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เพราะถือเป็นพื้นที่ที่กลุ่มต่างๆ นิยมออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามจากการข่าวขณะนี้ยังไม่พบรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีความเห็นต่างแต่อย่างใด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องของความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลที่อาจกระทบต่อการแสดงออกทางการเมืองไปแล้ว รวมทั้งขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงก็ได้เรียกกลุ่มองค์กรต่างๆ เข้าไปพูดคุยปรับทัศนคติแล้วหลายกลุ่ม ทำให้ขณะนี้ยังไม่พบกลุ่มที่จะออกมาสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด มีเพียงบางส่วนที่มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อยู่ประปรายเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพร้อมทำความเข้าใจอยู่ตลอด