เข้มมาตรการ ตร.ฆ่าตัวตาย คาดโทษผู้บังคับบัญชา

สตช.วางมาตรการเข้มเอาผิดผู้บังคับบัญชาหากปล่อยปละละเลยให้ลูกน้องในสังกัดฆ่าตัวตาย ชี้ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาครอบครัว หนี้สิน และการทำงาน ระบุข้อมูลตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีตำรวจฆ่าตัวตาย 34 นาย ส่วนใหญ่เป็นชั้นประทวน

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีนโยบายให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันปัญหาตำรวจฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี ขณะที่หลังจากนี้หากพบว่าพื้นที่ใดมีตำรวจฆ่าตัวตายจะมีการเอาผิดผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น เพราะถือเป็นการปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมนำโครงการเพชรฆาตความเครียดกลับมาใช้ โดยจะหารือกับแพทย์โรงพยาบาลตำรวจในการจัดทีมแพทย์ ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพจิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำกิจกรรมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมกันนี้จะมีการพิจารณาขยายเวลาสายด่วน 1599 ปรึกษาปัญหาตำรวจ จาก 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นตลอดทุกวัน รวมทั้งอาจให้เบอร์แพทย์จิตแพทย์ ปรึกษาปัญหาโดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สถิติหลังจากเปิดสายด่วนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรเข้ามารับคำปรึกษาที่สายด่วน 1599 แล้ว จำนวน 40 นาย โดยสาเหตุการฆ่าส่วนใหญ่มาจากปัญหาครอบครัว หนี้สิน การทำงาน และปัญหาสุขภาพ อย่างไรก็ตาม สถิติตำรวจฆ่าตัวตายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551-2556 พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่าตัวตาย 172 นาย โดยปี 2555 มากที่สุด 47 นาย ส่วนใหญ่เป็นตำรวจชั้นประทวน และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีตำรวจเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายแล้ว 34 นาย