ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 37 ปี เกย์เฒ่าฮอลแลนด์อนาจารเด็กชายอายุไม่เกิน 13 ปี ชี้ผู้เสียหายจดจำเหตุการณ์ได้แม่นยำ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง ขณะที่อุทธรณ์ปฏิเสธลอยๆ ฟังไม่ขึ้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.745/2551 คดีแดง อ.2250/52 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิลเลียม เจอร์ราด น็อปเปียน อายุ 56 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ และนายธเนศ หรือกวัก บัวหลวง อายุ 37 ปี เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป พาเด็กหรือจัดให้เด็กกระทำการใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น, พาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี จำเลยให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ เมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค. 2550 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันพราก ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ผู้เสียหาย ไปจากบิดา และมารดาเพื่อการอนาจาร โดยจำเลยที่ 2 เป็นธุระจัดหาพา ด.ช.เอ ผู้เสียหายไปที่บ้านเลขที่ 41/106 หมู่บ้านถาวรวิลเลจ 5 บ้านเขาน้อย ถ.ห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของจำเลยที่ 1 โดยอ้างว่า จ้างไปทำความสะอาด ระหว่างนี้เองจำเลยที่ 1 ได้ใช้อวัยวะเพศถูไถหน้าท้องผู้เสียหายและสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง รวม 4 ครั้ง โดยทุกครั้งจำเลยที่ 1 จะให้เงินจำเลยที่ 2 ครั้งละ 200 บาท และให้เงินแก่ผู้เสียหายครั้งละ 120 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นบ้านยังพบหนังสือลามก รวม 9 เล่ม และอื่นๆ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2552 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้นเป็นเวลา 37 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุก 26 ปี 8 เดือน ต่อมานายวิลเลียม จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์สู้คดีเพียงคนเดียว
ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์มีผู้เสียหายเบิกความว่า จำเลยที่ 2 ได้ชักชวนให้ไปทำความสะอาดที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 นอนเปลือยกายอยู่ และเรียกผู้เสียหายเข้าไปในห้องนอน ให้ถอดเสื้อผ้า ก่อนจำเลยที่ 1 จะกระทำอนาจารและสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เห็นว่าผู้เสียหายเป็นเด็กย่อมจดจำเหตุการณ์อย่างแม่นยำ ขณะที่จำเลยที่ 1 ต่อสู้คดีลอยๆ ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ อีกทั้งจำเลยที่ 2 ก็รับสารภาพในชั้นสอบสวน ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามคำพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มีผู้เสียหาย และตำรวจกองบังคับการปราบปราบการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) เบิกความได้อย่างสอดคล้องต้องกัน อีกทั้งจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้พาผู้เสียหายไปบ้านที่เกิดเหตุรวม 5 ครั้ง และจำเลยที่ 1 กระทำอนาจารโดยใช้มือลูบคลำอวัยวะเพศชายผู้เสียหายรวม 2 ครั้ง และใช้ปากอมอวัยวะเพศผู้เสียหายอีก 2 ครั้ง ทั้งนี้ผู้เสียหายเป็นเด็กได้เบิกความยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำอนาจาร โดยปราศจากการลังเล และไม่มีพิรุธแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะเสแสร้างแต่งเรื่องขึ้นมาปรักปรำใส่ร้ายจำเลยที่ 1 พยานหลักฐานโจทก์ประกอบไปด้วยเหตุผล มีน้ำหนักมั่นคง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน