สน.พระอาทิตย์
พล.ต.ท.อนุรุต ไม่มีความเหมาะสมทำงานในพื้นที่ภาคใต้แล้วหรือถึงต้องส่งพล.ต.ท.สุชาติไปช่วยดับไฟใต้ แล้วตำแหน่งจเรตำรวจไม่สำคัญแล้วหรือ ถึงให้พล.ต.ท.สุชาติทิ้งงานจเรตำรวจไปทำงานดับไฟใต้ และหากเห็นว่าพล.ต.ท.สุชาติมีความสามารถทำไมไม่ค้านในช่วงการแต่งตั้งที่ไม่ได้นั่งเก้าอี้ ผบช.ศชต.
คำสั่งมอบหมาย “พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์” ผู้บัญชาการสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบช.สง.ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนจเรตำรวจ(สบ8) ไปปฏิบัติหน้าที่ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า(ศปก.ตร.สน.) กลับลงไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง
ตอกย้ำการบริหารงาน กรมปทุมวันที่ผิดพลาดแบบ “ผิดฝาผิดตัว”ชัดเจนที่สุด
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สีกากี เซ็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่548/2557ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2557 อ้างถึงคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่509/2555 ลงวันที่ 18 กันยายน 2555 จัดตั้ง ศปก.ตร.สน. เพื่อวางแผน สั่งการ อำนวยการ ควบคุมประสานงาน เร่งรัด ตรวจสอบ ติดตาม กำกับดูแล ประเมินผลในการปฏิบัติงานเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยรักษาความมั่นคงภายใน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรม และดำเนินการอื่นตามนโยบายรัฐบาล เพื่อยุติสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
และตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 510/2555 ลงวันที่ 18 กันยายน 2555 มอบหมายให้ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) ปฏิบัติหน้าที่เป็น ผู้บัญชาการ ศปก.ตร.สน.
“เพื่อให้การปฏิบัติราชการของ ศปก.ตร.สน.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 และ47 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ.2547 จึงให้พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผบช.สง.ผบ.ตร. รักษาราชการแทน จเรตำรวจ(สบ8) ปฏิบัติหน้าที่เป็น รองผบช.ศปก.ตร.สน. มีกำหนด 1 ปี มีหน้าที่ตามที่ ผบช.ศปก.ตร.สน. มอบหมาย”
การดึง “บิ๊กใหม่”พล.ต.ท.สุชาติ รีเทิร์นทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ สร้างความสับสนและมึนงงให้กับคนสีกากีและสังคมทั่วไปอย่างมาก เพราะในช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับนายพลประจำปี 2557 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชื่อพล.ต.ท.สุชาติกับพื้นที่ชายแดนใต้ มีเรื่องราวกล่าวขานกัน ชนิดสั่นสะเทือนวงการตำรวจ
โดยในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มี “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานครั้งนั้น ก่อนเริ่มประชุมเพียงไม่กี่ชั่วโมงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ที่ “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร.(ขณะนั้น) เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา มีการเปลี่ยนโผกลางคัน 4 ตำแหน่ง
ซึ่ง 1 ใน 4 ตำแหน่ง คือ การเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้(ผบช.ศชต.) ที่เดิมมีชื่อ “บิ๊กใหม่”ตีตราจองเก้าอี้ “ผบช.ศชต.”มาตั้งแต่ไก่โห่ ชนิดตำรวจที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ต่างรับรู้ว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า พล.ต.ท.สุชาติจะมาเป็นเจ้านายคนใหม่แบบเต็มตัว ไม่ใช่ช่วยราชการเหมือนก่อน
แต่กลายเป็น พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ จเรตำรวจ(สบ8)
สุดท้ายหลังการประชุมก.ตร.เสร็จสิ้น ปรากฏว่า พล.ต.ท.อนุรุต โยกจากจเรตำรวจ(สบ8) มาเป็น ผบช.ศชต. พล.ต.ท.สุชาติ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.(ทนท.ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) ขยับเป็น จเรตำรวจ(สบ8) แทนพล.ต.ท.อนุรุต
ผลพวงการแต่งตั้งดังกล่าวสร้างความผิดหวังและท้อแท้ให้กับ “บิ๊กใหม่”อย่างมาก ถึงขนาดต้องระบายอัดอั้นตันใจให้กับเพื่อน ลูกน้อง และคนใกล้ชิดฟัง รวมทั้งพล.ต.ท.สุชาติเองออกมาบอกว่า เมื่อการทำงานสไตล์ตัวเองไม่ใช่ที่ต้องการก็คงต้องหยุด และคงไม่ลงไปช่วยราชการที่ ศชต.อีกแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นที่มาของกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเปลี่ยนตัว ผบช.ศตช.ในโลกโซเชียลแบบสั่นสะเทือนวงการสีกากี ในท่วงทำนองพล.ต.ท.สุชาติเสียสละทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กินนอนกับลูกน้อง ร่วมเป็นร่วมตายไม่กลัวอันตาย แบกปืนกินข้าวเหนียวปลาร้า ค่ำไหนนอนนั้น แต่สุดท้ายกลับได้ผลตอบแทนโดนเข้ากรุตบยุง
แต่แล้วจู่ๆ พล.ต.อ.สมยศ ก็เซ็นคำสั่งให้พล.ต.ท.สุชาติ ลงไปทำหน้าที่ รองผบช.ศปก.ตร.สน. ทำงานในพื้นที่ภาคใต้ตามเดิม ทั้งๆที่หากจะใช้งาน “บิ๊กใหม่”ดับไฟใต้ต่อ ก็น่าจะแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้ผบช.ศตช.ไปก็หมดเรื่องหมดราว สะท้อนการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบบ “ชุ่ย”อย่างไม่มีข้อแก้ตัว
พล.ต.อ.วัชรพล เคยให้เหตุผลหลังประชุม ก.ตร.ถึงการเปลี่ยนตัวพล.ต.ท.สุชาติจากเก้าอี้ ผบช.ศชต.สลับกับพล.ต.ท.อนุรุต
“พล.ต.ท.อนุรุตมีความเหมาะสม เพราะทำงานมีตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้มานาน ประสบการณ์การันตี ก่อนเป็นจเรตำรวจ ก็เป็น รองผบช.ศชต.มาก่อน ส่วนพล.ต.ท.สุชาตินั้น เหตุผลที่ย้ายไปตำแหน่ง จเรตำรวจ เพราะหน่วยงานจเรตำรวจมีความสำคัญ”
เหตุผลของพล.ต.อ.วัชรพล ทางพล.ต.อ.สมยศคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองย่อมต้องรับรู้และเห็นพ้องด้วย เพราะช่วงการทำบัญชีแต่งตั้งพล.ต.อ.วัชรพลพูดมาตลอดว่าการทำบัญชีแต่งตั้งต่างๆจะหารือกับพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะว่าที่ ผบ.ตรซ.(ขณะนั้น) รวมทั้งพล.ต.อ.สมยศยังเป็นหนึ่งใน กรรมการ ก..ตร. ที่ต้องยกมือไฟเขียวในการแต่งตั้งทุกตำแหน่ง รวมทั้งตำรวจของพล.ต.ท.สุชาติด้วย
พล.ต.ท.อนุรุต ไม่มีความเหมาะสมทำงานในพื้นที่ภาคใต้แล้วหรือถึงต้องส่งพล.ต.ท.สุชาติไปช่วยดับไฟใต้ แล้วตำแหน่งจเรตำรวจไม่สำคัญแล้วหรือถึงให้พล.ต.ท.สุชาติทิ้งงานจเรตำรวจไปทำงานดับไฟใต้ และหากเห็นว่าพล.ต.ท.สุชาติมีความสามารถทำไมไม่ค้านในช่วงการแต่งตั้งที่ไม่ได้นั่งเก้าอี้ ผบช.ศชต.
เช่นเดียวกับการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของตำรวจ จะเกิดปัญหา “ข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย”หรือเปล่า เพราะต้องยอมรับว่าตำรวจใต้คลุกคลีทำงานกับพล.ต.ท.สุชาติมาก่อน เมื่อเจ้านายเก่าลงไปทำงานตามปกติ ลูกน้องก็ต้องมาฟังคำสั่ง แล้วจะเกิดปัญหาการบังคับบัญชาจากพล.ต.ท.อนุรุต ผบช.ศชต.ตัวจริงหรือไม่
จริงอยู่พล.ต.ท.สุชาติ เคยไปช่วยงานใต้สมัยเป็น ผบช.ประจำ และมีผบช.ศชต.อยู่แล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อารมณ์ความรู้สึกครั้งนี้แตกต่างจากเดิม เพราะปีก่อนลูกน้องและพล.ต.ท.สุชาติทำงานด้วยความหวังจะได้มาเป็น ผู้นำตำรวจใต้เต็มตัว แต่ครั้งนี้มาแบบอกหักผิดหวัง การทำงานจะทุ่มเทมากน้อยแค่ไหน หรือถ้าบาดแผลในใจ “บิ๊กใหม่”ได้รับการเยียวยาจาก “บิ๊กแป๊ะ””พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาการรองผบ.ตร. ด้วยเงื่อนไขอะไรก็ตามในอนาคต ก็ต้องถามว่าแล้วพล.ต.ท.อนุรุตจะทำงานอย่างไร
ทุกข้อสงสัยพล.ต.อ.สมยศ น่าจะต้องมีคำตอบให้คนสีกากีและสังคมรับรู้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหากังขากันอีก รวมทั้งประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับประโยชน์เต็มๆ
เพราะ “ไฟใต้”ไม่ใช่เรื่องเล่นขายของที่นึกอยากจะส่งใครไปดับก็ส่ง นึกอยากจะเปลี่ยนตัวใครก็เปลี่ยน