“ไพบูลย์” โวยสื่ออ้างแหล่งข่าวมั่วชื่อ อธ.ดีเอสไอ

รมว.ยุติธรรม ฉุนสื่อเครือมติชนมั่วข่าวเสนอชื่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ลั่นไม่เคยเอ่ยชื่อใครออกจากปากเลย อย่าอ้างแหล่งข่าว พร้อมแบ่งนโยบายสำคัญ 5 ด้านภายใต้ภารกิจหลักของกระทรวงยุติธรรมในการลดความเหลื่อมล้ำ ฟื้นฟูผู้กระทำความผิดและการบังคับใช้กฎหมาย

วันนี้ (15 ต.ค.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการเสนอรายชื่อบุคคลเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อลงมติให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.) จะได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิบดีดีเอสไอ แทน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมว่า รายชื่อทั้งหมดตนไม่เคยพูดเลย และไม่เคยออกมาจากปากตน เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากรู้ก็ไปถามเอาเลย เมื่อวานนี้มีหนังสือพิมพ์มติชนเสนอข่าวนี้

“ท่านก็ไปถามแหล่งข่าว ไม่ใช่มาถามผม เพราะผมพูดไปแล้วว่าพวกทีวี พวกสื่อหลายฉบับถามผมก็ไม่เคยออกจากปากผม เพราะฉะนั้นผมไม่รู้ว่ารายชื่อนั้นมาได้อย่างไร ดังนั้นอยากรู้ต้องไปถามมติชน ถ้ามติชนบอกว่าจากแหล่งข่าว ผมก็จะถามว่าแหล่งข่าวจากไหน” รมว.ยุติธรรมกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะ รมว.ยุติธรรม ท่านสนับสนุนคนนอกหรือคนในกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนสนับสนุนทุกคนที่เป็นคนดี ซึ่งเป็นคนใน หรือคนนอกก็ได้ ถ้าดีก็สนับสนุน

อย่างไรก็ตาม ตนมีชื่อที่เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ครม.แล้ว แต่ไม่ขอบอก และที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดเลยว่าจะเสนอชื่อ พล.ต.ท.เดชณรงค์ พล.ต.อ.เอก พล.ต.ตอำนวย หรือ พ.ต.อ.ณรัชต์ ก็ไม่เคยออกจากปากตนเลยสักครั้ง แต่ทำไมสื่อบางสำนักนำมาลง

วันเดียวกันที่ห้องประชุม 2 กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า จากการประชุมในวันนี้ได้แบ่งนโยบายสำคัญ 5 ด้านภายใต้ภารกิจหลักของกระทรวงยุติธรรมในการลดความเหลื่อมล้ำ ฟื้นฟูผู้กระทำความผิดและการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบด้วย 1. ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 2. ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 3. ด้านการพัฒนาพฤตินิสัยและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด 4. ด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และ 5. ด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติพิเศษ และผู้มีอิทธิพล

นอกจากนี้จะมีการผลักดันกฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำประชาชน หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิต่างๆของประชาชน เช่น กฎหมายไกล่เกลี่ย การชะลอการฟ้องล้มละลาย การคุ้มครองสิทธิ สิทธิต่างๆ ในการได้รับการเยียวยา การป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้จะมีการเสนอแก้ไขกฎหมายทั้งหมด 14 ฉบับ และจะเสนอเพิ่มกฎหมายใหม่อีก 4 ฉบับ ซึ่งการเสนอในไตรมาสแรกไม่เกินเดือนธันวาคมนี้

รมว.ยุติธรรมกล่าวอีกว่า ภายใน 3 เดือนนี้ต้องจัดตั้งยุติธรรมชุมชนให้เสร็จ เพื่อรองรับนโยบายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะเชื่อมโยงการทำงานกับกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ ในการที่จะประสานให้สถานีตำรวจกว่า 1,476 แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์ในการรับเรื่องเยียวยาผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่กองทุนยุติธรรมไปด้วยนั้นจะต้องยกร่างเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้