รมว.ยุติธรรม ยอมรับดีเอสไอมีปัญหามากในสายตาคนนอก เรียกร้องคนดีเอสไอพิสูจน์ตัวเอง เร่งสร้างความยุติธรรม เรียกศรัทธาจากประชาชน
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวปาฐกถาในงานครบรอบ 12 ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้ดูกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ แต่อยู่ปลายน้ำ ซึ่งไม่เห็นว่ากระทรวงยุติธรรม จะมีงานชัดเจนเหมือนกระทรวงมหาดไทย โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นงานสร้างระบบ แม้แต่งานด้านปราบปรามยาเสพติดที่ เลขาฯ ป.ป.ส. ทำได้เพียงสร้างระบบ และ งานปราบก็ทำเองไม่ได้ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กก็ต้องประสานกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับดีเอสไอนั้น ถ้าเป็นคนยุติธรรมก็ต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมตามที่สังคมคาดหวังไว้ ซึ่งวันนี้ดีเอสไอไม่ได้รับความเชื่อถือจากสังคม จึงอยากให้ยอมรับความจริงและพิสูจน์ตัวเอง หากคนดีเอสไอผูกพันและอยากเห็นดีเอสไอเป็นที่เชื่อถือ ขอให้ทำให้เกิดความยุติธรรม และภายหลังการเข้ายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบ (คสช.) คำถามแรก คือ เมื่อไรจะย้ายอธิบดีดีเอสไอ ทำไมดีเอสไอมีปัญหามากจริงๆ ในสายตาสังคมภายนอก
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า เมืองไทยมีปัญหาจริง เรื่องการออกกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐมักออกกฎหมายเพิ่มอำนาจหน้าที่ของตัวเอง ทำให้การคอร์รัปชันเกิดขึ้นจากการให้อำนาจหน้าที่ จึงต้องระมัดระวัง ซึ่งย้อนมาถึงดีเอสไอ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจทั่วประเทศ ได้ใช้อำนาจเพื่อตัวเอง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ แต่ถ้าทำเช่นนั้น ก็เลว
อย่างไรก็ตาม เมื่อตนเป็น รมว.ยธ. แล้ว ก็ต้องร่วมกับปลัด ยธ. ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องดีเอสไอ หากวันนี้ คนดีเอสไอยอมรับ ว่าไม่ได้รับความเชื่อถือ ก็ต้องปรับปรุง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องกลัว ดังนั้น ให้ไปทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น จึงมีกระแสข่าว จะให้ยุบบ้าง ปรับโครงสร้างดีเอสไอบ้าง ดีเอสไอถูกแทรกแซงบ้าง ทั้งนี้ ต้องปรับปรุงปฏิรูปให้ได้ เมื่อตนเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบดีเอสไอ ก็ต้องเข้ามาเคลียร์ ให้ดีเอสไอ เป็นที่ยอมรับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อ 2-3 วัน ที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานว่าเกิดเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นในดีเอสไอ เรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกเจ็บปวดมาก เหมือนควบคุมพวกท่านไม่ได้ หากพบผู้กระทำผิดตนจะสอบสวนเอาผิดด้วยตัวเอง การกระทำครั้งนี้กำลังฟ้องกับสาธารณะว่าดีเอสไอถูกแทรกแซงจริง พวกท่านกำลังฆ่าดีเอสไอ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายทำก็ต้องเรียกว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ดีเอสไอเป็นหน่วยบังคับใช้กฎหมายทำงานภายใต้ความคาดหวังของประชาชนแต่กลับมาเกิดเหตุลักษณะนี้ ตนไม่พอใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
ด้าน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ และว่าที่ปลัด ยธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา 4 เดือนในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ สิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์กรนี้ ไม่สะท้อนความเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลยทำให้กรมเหมือนต้องถูกปิดในช่วงที่ผ่านมา และตนได้ใช้เวลา ทำความเข้าใจกับคนดีเอสไอ ให้ช่วยกันฟื้นดีเอสไอ ให้เป็นที่เชื่อถือของสังคม ต้องขอโทษที่ตั้งแต่ตนเป็นอธิบดีไม่ได้ออกมาพูด เพราะดีเอสไอต้องทำงานสืบสวน ในลักษณะพิเศษจริงๆ ซับซ้อน รุนแรง มีผู้มีอิทธิพล และเกี่ยวกับปัญหาข้ามชาติ ถ้าเหตุชัดดีเอสไอ จึงจะดำเนินการได้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ได้กล่าวถึงคดีการเมือง โดยเฉพาะคดีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ปี 53 ว่า คดีที่เหลือและสำนวนชันสูตรพลิกศพ ที่ยังอยู่ในกระบวนการของตำรวจ หากไม่มีข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นผู้ทำให้ตาย ก็ยังเป็นสำนวนชันสูตรพลิกศพ ไม่ใช่สำนวนการสอบสวน ทั้งนี้ สำหรับคดีแรงงานไทยถูกหลอกค้ามนุษย์ในอินโดนีเซีย และช่วยมาได้แล้ว 6 คน ตนได้ลงนามอนุมัติให้เป็นคดีพิเศษแล้ว