“พล.ต.ท.เรวัช” นำทีม บช.ปส.แถลงจับยาเสพติด 5 คดี ตรวจยึด 1 ราย ผู้ต้องหา 13 คน ยาบ้า 7.3 แสนเม็ด ไอซ์ 8 กก. ของอื่นอีกเพียบ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (14 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร รรท.ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงค์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส. และ พ.ต.อ.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รรท.ผบก.ปส. 4 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดียาเสพติด 4 คดี ของกลางยาบ้า 730,002 เม็ด ยาไอซ์ 8,045 กรัม ผู้ต้องหา 13 คน
คดีแรกจับกุมตัว นายพีรพล หรือเบส อโศกธรรมรังสี อายุ 29 ปี ยาบ้า 2,002 เม็ด ยาไอซ์ 20.95 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล ปืน 2 กระบอกพร้อมกระสุน ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 603 หมู่ 3 แขวงและเขตจอมทอง กทม. เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม เวลาประมาณ 22.30 น. โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายพีรพลจำหน่ายยาเสพติดในชุมชนพระราม 2 ซอย 4 จึงนำกำลังออกติดตาม เมื่อพบจึงตรวจค้นพบยาเสพติดจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี
คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา 9 คน ประกอบด้วย 1. นายขวัญ มีอาษา อายุ 20 ปี 2. นายศักดิ์ดา อารีย์ อายุ 29 ปี 3. นายณัฐพงษ์ แสวงศักดิ์ อายุ 23 4. นายสุชน ลีไธสง อายุ 38 ปี 5. นายสมชาย หือใจ กระจ่างฤกษ์ อายุ 31 ปี 6. นายณรงค์ อารีย์ อายุ 30 ปี 7. นายสมโชค สาลิกา อายุ 30 ปี 8. นายกมล สาทเริก อายุ 30 ปี และ 9. นายธนพัฒน์ แสงนิกร อายุ 21 ปี มียาเสพติดเป็นยาบ้า 480,000 เม็ด, ยาไอซ์ 8 กิโลกรัม และอื่นๆ อีกหลายรายการ
พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่านายขวัญเป็นผู้ค้ายาเสพติดในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และสืบทราบว่าพักอยู่ที่อาคารพีเอส อุดมสุข อพาร์ทเม็นท์ ซอยอุดมสุข 29 แขวงและเขตบางนา กทม. จึงซุ่มติดตามกระทั่งวันที่ 12 ตุลาคม พบว่านายขวัญ เตรียมส่งยาเสพติดให้ลูกค้า จึงบุกเข้าจับกุมในห้องพักดังกล่าวก่อนจะขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหานายศักดาเพิ่มเติมว่ามีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีที่ 3 ตรวจยึดยาบ้า 74 มัด หรือ 148,000 เม็ด ปืนยาวขนาด .22 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก ซองกระสุน 1 อัน ลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 5 นัด จักรยานยนต์ฮอนด้า ซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเขียว-ดำ ทะเบียน 1 กจ 8495 ลำพูน จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำแดง ทะเบียน ขจน 888 ลำพูน จักรยานยนต์ฮอนด้า สีเทาดำ ทะเบียน ครข 335 เชียงใหม่ จักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขงจ 811 ลำพูน โดยตรวจยึดได้ที่ป่าท้ายหมู่บ้านทาป่าสัก หมู่ 2 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้าลำเลียงยาเสพติดมาพักไว้ที่บริเวณดังกล่าวเพื่อรอส่งมอบให้ผู้รับอีกทอด จึงเข้าทำการตรวจสอบพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่จริง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยต่อไป
คดีที่ 4 จับกุม น.ส.เนติยา หรือเน ปิโคทัง อายุ 29 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ยาบ้า 60,000 เม็ด กระเป๋าเป้สีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้ที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร พบรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ศฮ 8157 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาจึงเรียกตรวจค้น พบ น.ส.เนติยากับพวกรวม 4 คน และยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง สอบสวน น.ส.เนติยารับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนและกำลังจะไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต"นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 5 จับกุมนายสิทธิกร หรือไข่ดำ นิลภูศรี อายุ 20 ปี นายจักรพงษ์ หรือลีอ๊อด บุญทวี อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟไอ ทะเบียน 1 กฉ 1466 สงขลา โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้ที่ริมถนนติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม เวลา 14.00 น. โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าบริเวณทิวสน รีสอร์ท ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา จึงเฝ้าดูจนพบนายสิทธิกรและนายจักรพงษ์ขับขี่จักรยานยนต์พร้อมกระเป๋ามายังที่เกิดเหตุจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 20 มัด รวม 40,000 เม็ด จับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.สงขลา ดำเนินคดีต่อไป