xs
xsm
sm
md
lg

“พงศพัศ” แถลงรวบยาบ้า-ไอซ์รวม 4 คดี มีชาวไนจีเรียร่วมด้วย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“พงศพัศ” ควง ผบช.ปส.แถลงรวบยาบ้า-ไอซ์รวม 4 คดี มีชาวไนจีเรียนักค้ายาข้ามชาติ-ล่อลวงหญิงไทยลำเลียงยาเสพติดรวมอยู่ด้วย เผย 5 โครงข่ายเชื่อมโยงกันหมด แถมพบว่ามีอีก 3-5 ล้านเม็ดกำลังจ่อเข้าไทย เร่งขยายผลกี่ยวข้องอดีตรอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ หรือไม่



เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. และพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส. 3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด

พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า คดีแรกจับกุมนางแก้ว คำจันทร์ อายุ 50 ปี นางวันเพ็ญ คำจันทร์ อายุ 27 ปี นายจั้ง ไม่ทราบนามสกุล (ถือบัตรประชาชนชื่อนายวิชาญ ธุระมะฉายา) และนายหนุ่ม คำปูน ของกลางยาบ้า 440,000 เม็ด ไอซ์ 2 กิโลกรัม อาวุธปืน 5 กระบอก รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง

โดยชุดจับกุมสืบทราบว่าจะมีผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงมาภาคกลาง โดยใช้รถทะเบียน กม 562 เชียงราย ต่อมาวันที่ 23 สิงหาคม เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวผ่านด่านตรวจพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงเรียกให้หยุดรถ พบนางวันเพ็ญเป็นผู้ขับ นางจันทร์นั่งมาด้วย พบยาบ้าและไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในรถ ทั้งสองให้การว่าจะนำไปส่งให้ผู้รับที่ปลายทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลจนทราบว่านัดส่งมอบที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ซึ่งผู้ต้องหาอีก 2 คนยิงตอบโต้ระหว่างจับกุม แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ และนำตัวไปค้นบ้านจนพบของกลางที่เหลือ

จากการสอบสวนนางวันเพ็ญและนางแก้วให้การว่ารับจ้างส่งของเป็นครั้งแรก ค่าจ้าง 1.5 ล้านบาท ส่วนนายจั้งและนายหนุ่ม ทำมาหลายครั้งแล้ว จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเพิ่มต่อนายจั้ง และนายหนุ่มว่ามีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่, เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้อนุญาต

คดีที่ 2 สายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีผู้ลำเลียงยามาพักไว้เพื่อรอส่งมอบให้ผู้รับอีกทอด ชุดสืบสวนจึงไปตรวจสอบพบยาบ้า 34,000 เม็ด บริเวณข้างเคียงไม่พบพยานหลักฐานใดเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้อง

คดีที่ 3 จับกุมนายจอห์น ชินอนโซ อายุ 32 ปี สัญชาติไนจีเรีย นายไมเคิล อีจิโอฟอร์ อีเฟียนยี อายุ 32 ปี สัญชาติไนจีเรีย น.ส.จีราพร จำปางาม อายุ 28 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ของกลางยาไอซ์ 2.5 กิโลกรัม ได้ที่ห้องเลขที่ 504 อาคารเอ็มแอล แมนชั่น ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายจอห์นกับพวกเป็นผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยชักจูงหญิงไทยให้ลำเลียงยาเสพติดจากต่างประเทศ โดยนายจอห์นได้จ้าง น.ส.จีราพรขนยาไอซ์จากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อ น.ส.จีราพรไปถึง มีเครือข่ายชาวแอฟริกาตะวันตกนำเครื่องคิดเลขอัตโนมัติซึ่งมียาไอซ์ชุกซ่อนอยู่ภายใน 1,600 กรัม มอบให้ น.ส.จีราพร ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านมาทางประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และเข้ามาในประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสะพานมิตรภาพ 1 จ.หนองคาย และเดินทางโดยรถประจำทางเข้ามายังกรุงเทพมหานคร ส่งมอบยาเสพติดให้นายจอห์นซุกซ่อนไว้ ต่อมานายจอห์นและนายไมเคิลนำยาไอซ์มาบรรจุใหม่เป็นก้อนสำหรับกลืนและสอดในช่องคลอดหรือทวารหนักเพื่อส่งให้ลูกค้าต่อไป จากการสืบสวนทราบว่า นายจอห์นมีส่วนเกี่ยวข้องสั่งการให้หญิงไทยไปลำเลียงยาเสพติดจากต่างประเทศ ได้แก่ น.ส.ประกาย แพชมภู ไปลำเลียงมาจากเมืองกวางโจว ประเทศจีน และถูกจับกุมขณะเดินทางกลับมาประเทศไทย ที่ท่าอากาศดอนเมือง เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมยาไอซ์หนัก 330 กรัม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4 จับกุมนายพิพัฒพงศ์ โคตรบ้านแจ้ อายุ 20 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ และน.ส.แพนด้า (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ของกลางยาบ้า 90,000 เม็ด กระเป๋าเดินทางแบบลากจูง 1 ใบ รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำตาล ทะเบียน กท 2312 สระบุรี และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ที่หน้าห้องน้ำหญิง ลานจอดรถร้านอาหารชุมแพชุมเพลิน เลขที่ 168 ถนนชุมแพ-เมืองเลย บ้านหนองตุ้มนก หมู่ 6 ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะลักลอบนำยาเสพติดจากภาคอีสานมาส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยรถยนต์ ทะเบียน กท 2312 สระบุรี ในวันที่ 24 สิงหาคม ที่บ้านหนองตุ้มนก หมู่ 6 ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ เมื่อพบรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเรียกทั้งสองลงจากรถตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างนายทุนลำเลียงยาบ้าไปส่งให้คนรับอีกทอดหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้แบ่งโครงข่ายยาเสพติดเป็น 5 โครงข่าย ได้แก่ 1. โครงข่ายภาคเหนือ 2. โครงข่ายภาคอีสาน โดยสองโครงข่ายนี้จะนำยาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะมีนายทุนคนเดียว 3. โครงข่ายนำยาเสพติดจากภาคกลาง ไปพักที่ จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี จ.พระนครศรีอยุธยา และส่งยาลงสู่ชุมชน 4. โครงข่ายรับช่วงจากแหล่งพักยาภาคกลางลงสู่ภาคใต้ 5. โครงข่ายนำรายได้จากการขายยาออกนอกประเทศในรูปแบบต่างๆ เช่น ค่าจ้างแรงงาน ชำระค่าสินค้า ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งคณะกรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบพบว่าโครงข่ายทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันจากบัญชีที่พบ นอกจากนี้ยังพบว่ามียาเสพติดอีก 3-5 ล้านเม็ดจากพม่าที่กำลังจะเข้าไทย กำลังเร่งตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร อดีตรอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ หรือไม่

“ขณะนี้ยังมีสี่คูณร้อยที่มีส่วนผสมของยาแก้ไอเป็นหลัก กำลังระบาดหนักตามสถานบันเทิง ซึ่งตรวจสอบไม่พบสารเสพติด แต่ผู้เสพจะมีอาการมึนงง โดยทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังคิดค้นขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อให้ตรวจพบสารสี่คูณร้อย จึงอยากจะให้ผู้ปกครองสังเกตพฤติกรรมลูกหลานว่ามีอาการเปลี่ยนไปหรือไม่ หากมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปให้แจ้งเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งว่าตามสถานบันเทิงที่มีบารากู่บริการนั้น บางแห่งผสมยาเสพติด กำลังตรวจสอบว่าที่ไหนผสมยาเสพติด จะได้กวาดล้างทันที”







กำลังโหลดความคิดเห็น