“สหฟาร์ม” เคลียร์ไม่จบ หลังผู้เลี้ยงไก่ 514 รายใน จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ ยังไม่ได้รับเงินค้างชำระกว่า 340 ล้านบาท กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รับปากช่วยทำเอกสารไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ พร้อมขอธนาคารกรุงไทยช่วยซื้อหนี้เกษตรกร
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม นายอุดมทรัพย์ แดงเลิศ ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในระบบพันธสัญญาบริษัท สหฟาร์ม กรุ๊ป จำกัด จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยนายอนันต์ ธาตุไพบูลย์ ตัวแทนสหฟาร์ม เข้าพบนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการระงับข้อพิพาท กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความช่วยเหลือให้เกษตรที่ยังไม่ได้รับเงินค้างจ่ายค่าแรง
นายอุดมทรัพย์กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เลี้ยงไก่เนื้อใน จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถผ่อนชำระหนี้สินได้ เนื่องจากสหฟาร์มค้างจ่ายเงินกับเกษตรกร 514 ราย มูลหนี้ค้างชำระกว่า 340 ล้านบาท ส่งผลให้เกษตรกรไม่มีเงินส่งคืนธนาคารที่ไปกู้ยืม รวมทั้งต้องแบกรับภาระการขนส่งไก่ไปบริษัทเอง ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียน ขณะที่เกษตรกรจังหวัดอื่นได้รับเงินฟื้นฟูกิจการ ภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลายหมดแล้ว เหลือแต่ 2 จังหวัดนี้เท่านั้น
ด้านนายเกิดโชคกล่าวว่า ตอนนี้ทางกรมดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไปจำนวนมากแล้ว เหลือเพียงแต่การจัดทำเอกสารเพื่อส่งให้ศาลดำเนินคดีตามขั้นตอน หลังจากนี้กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะร่วมมือกับกรมบังคับคดี ดำเนินการเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือเกษตรในการทำเอกสารให้ถูกต้องสมบูรณ์ ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ส่วนที่เกษตรกรเป็นหนี้สินสถาบันการเงิน และหนี้นอกระบบเพราะไม่มีเงินหมุนเวียนนั้นกรมคุ้มครองสิทธิจะขอให้ธนาคารกรุงไทยซื้อหนี้เกษตรได้หรือไม่ ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อตกลงกับทางธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ของสหฟาร์ม เพื่อขอให้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัท ขณะนี้ใกล้จะได้ข้อยุติแล้ว
“สำหรับการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรนั้น กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะนำโครงการโซลาร์เซลล์มาใช้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงไก่และช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย”