xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” เปิดงาน ยธ.ครบรอบ 125 ปี พร้อมผลักดันหน่วยงานก้าวสู่สากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “พล.อ.ไพบูลย์” เปิดงานครบรอบ 125 ปี กระทรวงยุติธรรม พร้อมผลักดันหน่วยงานก้าวทันสมัยกับความต้องการของประเทศ นำบริการรัฐสู้สังคม รู้ว่า จนท.เหนื่อยแต่ทุกคนทำเพื่อประชาชน

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ชั้น 2 ลานอเนกประสงค์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสถาปนากระทรวงยุติธรรมครบรอบ 125 ปี ภายใต้แนวคิด “125 ปี ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน” โดยมีผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมงานแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง พร้อมเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น, รางวัลอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดีเด่น และรางวัลประกวดงานวิจัยดีเด่น ก่อนถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวหลังเปิดงานเสร็จสิ้นว่า วันนี้กระทรวงยุติธรรมได้ครบรอบ 125 ปี โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ได้ทรงก่อตั้งและสถาปนาขึ้น ในอดีตเป็นกระทรวงศาล แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองและระบบการเข้าถึงประชาชน ในเรื่องสิทธิและอื่นๆ ทำให้ศาลต้องแยกออกไปจากฝ่ายบริหารและต้องทำให้เป็นสากลมากขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่ตนมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมพยายามที่จะกำหนดวิถีการทำงานว่าจะทำอย่างไรให้งานตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ โดยในเรื่องความยุติธรรมนั้นมีกันทุกคนและทุกเรื่อง แม้วันนี้ เราจะไม่ใช่กระทรวงศาลเองก็ตาม แต่กรม กองในกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์กับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมต้องบูรณาการกับกระทรวงอื่นให้ได้ เพราะกระทรวงยุติธรรมถือเป็นกระทรวงสากลที่ทุกประเทศต้องมีกระทรวงนี้ อาจจะแตกต่างในรายละเอียดของเนื้องาน แต่ความยุติธรรมมันไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้น นในกระทรวงยุติธรรมต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่นให้ได้ ซึ่งมันเป็นพลวัตรที่เคลื่อนไหว เช่น วันนี้กรมบังคับคดีจะต้องพัฒนาเพราะทำงานต่อจากศาล และต้องเข้าไปสู่กรมเศรษฐกิจให้ได้ เพราะมันเชื่อมโยงกับการลงทุนของประเทศ เป็นต้น เพราะมันจำเป็นที่จะต้องมีการขับเคลื่อนให้ทันสมัยกับความต้องการของการพัฒนาประเทศด้วย หรือกรมราชทัณฑ์ ซึ่งก็ต้องปรับตัวให้ได้กับการที่จะปรับปรุงกฎหมาย และกรมคุมประพฤติก็เหมือนกัน เพราะแนวโน้มที่จะไม่ใช้โทษในการจำคุกแต่จะต้องมีการรองรับสถานการณ์ให้ได้ ทั้งนี้ ความเป็นบริบทของกฎหมายพันธกรณีระหว่างประเทศก็ต้องได้ ซึ่งเป็นแนวใหม่ที่เราจะก้าวไปสู่ตรงนั้น

“ทุกคนรู้ว่าเราทำงานเรื่องกองทุนยุติธรรม เรื่องเยียวยา แต่มันไม่สามารถไปสู่ประชาชนได้ ซึ่งเราก็กำลังจะทำมันจึงต้องนำยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่สังคม อีกทั้งเป็นเรื่องที่เราจะต้องดำรงความเป็นกระทรวงยุติธรรมในเนื้อหาของความยุติธรรมไว้เหมือนเดิมให้ได้ และทำให้ทันกับสถานการณ์โลก การขยายตัวของสังคม ความต้องการของประชาชนในปัจจุบัน จึงเป็นโจทย์ที่คนกระทรวงยุติธรรมจะต้องทำ สุดท้ายขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรู้ว่าเหนื่อยแต่ทุกคนทำเพื่อประชาชน” พล.อ.ไพบูลย์กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น