จากกรณีที่กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดขอนแก่น (กกล.รส.จ.ขก.) นำโดย พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รรท.หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งบุกตรวจค้นบ่อนไพ่รายใหญ่ที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น จับนักพนันได้ 37 ราย พร้อมของกลางเงินสด 310,000 บาท เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นเลขที่ 25/210 ถนนมะลิวัลย์ ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจจำนวนมากรวมทั้งมีคลิปขณะจับกุมแพร่สะพัดไปตามโลกโซเชียลฯ เรียกว่าสังคมกำลังจับตาความเป็นไปอย่างไม่กระพริบ
รุ่งขึ้นวันที่ 19 ก.ย.การเคลื่อนไหวฝ่ายตำรวจก็ทำท่าจะพลิกเป็นหนังคนละม้วนเมื่อ พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้ทำหนังสือราชการส่งถึงต้นสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรขอนแก่น ชี้แจงว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไปตามสื่อแขนงต่างๆ เกี่ยวกับการจับบ่อนพนันที่อำเภอหนองเรือ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ตนปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการจับกุมนักพนันดังกล่าว เพราะไม่ได้ร่วม หรือได้รับประสานจาก กลล.รส.ขอนแก่น ว่า จะมีการข้าจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามเลขที่อาคารพาณิชย์ดังกล่าวแล้ว ไม่พบการกระทำผิด หรือมีการลักลอบการเล่นการพนันตามที่ระบุในข่าวแต่อย่างใด จึงไม่มีการลงบันทึกประจำวัน
ด้าน นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ นายอำเภอหนองเรือ ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เมื่อบ่ายวันเดียวกันนี้ โดยระบุในข้อความว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานจาก สภ.หนองเรือ ว่า ไม่ได้ร่วม หรือได้รับการประสานในการจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางแต่อย่างใดเช่นกัน
ส่วน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมบ่อนพนันครั้งนี้ ทางทหาร พร้อมสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่เข้าจับกุมนักพนันได้ 37 ราย พร้อมของกลางเป็นเงินสด 310,000 บาทจริง โดยโทรศัพท์ประสาน ผกก.สภ.หนองเรือ พร้อมส่งเงินของกลางให้แก่ ร.ต.ท.สัมฤทธิ์ บรรเทา ไปดำเนินการต่อ และดำเนินการตามขั้นตอนในการเข้าจับกุม เมื่อมีการรับเรื่องร้องเรียน การพิสูจน์ทราบ พร้อมนำตัวแทนประชาชนคือ สื่อมวลชนเข้าร่วม และมีหลักฐานเป็นภาพนิ่ง และวิดีโอทุกขั้นตอน พร้อมรายงานข้อเท็จจริงเป็นเอกสาร
"การถอนตัวของชุดผมไม่ได้กระทำการโดยการเคลียร์ การถอนตัวเนื่องจากการมีตำรวจท้องที่มารับต่อ เพราะหน้าที่การจับกุมดำเนินคดีเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารไม่มีอำนาจจับผู้ต้องหาดำเนินคดี"
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อสอบถามไปยังแหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงตำรวจต่างให้ความเห็นทำนองเดียวกันว่า นี่คงเป็นการแก้ลำของตำรวจเองเพราะเท่าที่ติดตามรายละเอียดรวมทั้งภาพข่าว บ้านหรือบ่อนที่ทหารเข้าไปจับกุมนั้นน่าจะเป็นบ่อนผูกประจำพื้นที่จริงโดยสังเกตจากลูกกรงเหล็กที่ติดไว้รอบๆทั้งชั้นบนชั้นล่าง โดยหลังจากทหารยึดอำนาจมีการใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ กำลังทหารก็ออกตรวจตราตามตรอกซอกซอยเรียกว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องแบบมาเป็นตำรวจได้ก็คงทำไปแล้ว
"ว่ากันตามตรงตำรวจตำรวจเขาก็อึดอัด 4 เดือนแล้วที่ทำงานกันอย่างตามมีตามเกิด น้ำมันสายตรวจไม่พอ เบี้ยเลี้ยงเดินทางตามจับคนร้ายไม่มี งานก็ต้องทำ คดีก็ต้องสืบ มีงบเท่าไหร่ก็ว่าไปตามนั้น คือทำงานไปด้วยรักษาตัวรอดไปด้วย ทหารเด็กๆที่ลงพื้นที่เขาก็ทำตามนายสั่งคืออะไรที่ผิดปกติ อะไรที่ผิดกฎหมายตามคำสั่งของ คสช.ต้องจับหมดซึ่งในการจับหรือตรวจแต่ละครั้งทหารก็ต้องแจ้ง ประสานมายังตำรวจเพราะตำรวจเท่านั้นที่มีหน้าที่ตามกฏหมายทหารจะไปจับโดยพละการไม่ได้แต่ที่ผ่านๆมาก็ประสานกันไปคือนายกับนายมีนโยบายให้ประสานกัน แต่กรณีที่หนองเรือฝ่ายตำรวจเขาคงไม่อยากเป็นฝ่ายตั้งรับอีกต่อไป"
ตำรวจใหญ่ขอสงวนชื่อแสดงความเห็นในตอนหนึ่งด้วยว่า ต่อไปอาจจะเป็นการเลียนแบบกันได้ เรียกว่า "หนองเรือโมเดล"ไว้แก้ลำทหาร ขอยืนยันอีกครั้งว่าตำรวจอึดอัด แต่ไม่ใช่เพราะหมดส่วย หมดสิ่งผิดกฎหมายแล้วเราจะตายนะเพียงแต่มันทำงานลำบาก จับไม่ได้โดนเพ่งเล็ง คดีเกิดนายก็สั่งๆๆ "บางจังหวัดเขาก็ลือกันว่ามีคนเอาชื่อทหารไปแอบอ้าง เดี๋ยวหน่วยนั้นหน่วยนี้ คนทำบ่อนทำผิดกฏหมายมันอยากทำก็จ่ายเงินไปผู้ประกอบการเขาก็วิ่งไปหาทหาร ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ อาจจะถูกหลอกแต่ถ้าไม่ชัวร์เขาคงไม่กล้าเปิด ใครจะกล้าเอาอนาคตไปเสี่ยง ไปท้าทายกับกฎอัยการศึก"
เมื่อถามถึงของกลางจำนวนมากที่ฝ่ายทหารตรวจยึดและส่งมอบให้กับตำรวจมีคำตอบว่าก็ผู้กำกับเขายันแล้วว่าไม่มีอะไร ไม่มีการจับ ไม่มีของกลาง ไม่มีผู้ต้องหา คือเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ตำรวจไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้นคงต้องให้เจ้าของรถ เจ้าของทรัพย์สินไปทวงกับทหารเอง หรือถ้าจะให้ดีควรมีเจ้านายระดับสูงปรับจูนทำความเข้าใจกัน ยังคงยืนยันว่าตำรวจเต็มที่แล้ว กดดันเรื่องงานเรื่องต่างๆสารพัด
"ถึงเวลาที่นายตำรวจใหญ่ๆใกล้ตัวท่านประยุทธ์ ควรพูดความจริงกับท่านได้แล้ว กล้าๆหน่อย กระซิบก็ได้ อย่างเรื่องผู้การจังหวัดน่านถูกเรียกมาประจานนั่นแหละมันซึมเข้าไปในความรู้สึก พูดกันอย่างนี้ไม่มีทางที่ประชาชนจะรับได้ แต่ความจริงก็คือความจริง ตอนนี้หลายโรงพักเขาเข้าเกียร์ว่างกันแล้ว มีเหตุทีออกไปดูทีชาวบ้านไม่ได้รับการคุ้มครองอะไร "
กรณีที่หนองเรือ ขอนแก่น พวกโลกสวยอาจจะด่าตำรวจ แต่แน่ๆมีตำรวจหลายคนแอบเชียร์นะ
แม้ยังสรุปเหตุการณ์จับบ่อนหนองเรือไม่ได้ ก็มีข่าวสะพัดออกมาอีกว่า การบุกทลายบ่อนของสีเขียวเป็นแค่ฉากละครที่จัดขึ้นมาสร้างผลงานของใครบางคน เพื่อเอาผลงานชิ้นนี้ขอขึ้นเป็นผู้นำหน่วยงานหลักในพื้นที่
ดังนั้น ในที่สุดข่าวการจับบ่อนหนองเรือก็จะเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง เพราะหากดำเนินการสอบสวนความจริงต่อไปมันจะเข้าเนื้อตัวเองน่ะสิ