รอง ผบ.ตร.ยอมรับผลตรวจดีเอ็นเอ 30 ผู้ต้องสงสัยฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ยังไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในตัวเหยื่อ แต่ยังไม่หมดหวัง สั่งขยายวงกว้างในการสืบสวนโดยเฉพาะคนร้ายอาจจะมาในคืนก่อเหตุ แล้วกลับออกไปทางเรือ
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คนที่เสียชีวิตภายในเกาะเต่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางลงไปพื้นที่เกาะเต่า และสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสุราษฎร์ธานี และภาค 8 ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 30 ราย ปรากฏว่าไม่มีดีเอ็นเอที่ตรงกับบุคคลต้องสงสัย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะต้องเพิ่มวงกว้างในการสืบสวน และบุคคลที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะต้องเป็นบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัย โดยทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเพิ่มประเด็นขยายวงกว้างในการตรวจพิสูจน์ต่างๆ หรือการนำหลักฐานต่างๆที่พบในจุดเกิดเหตุ หรือการตรวจสอบร่องรอยการเสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายใช้ไม้ก่อเหตุ และจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ทั้งนี้ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนและการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำมาชี้แจงต่อประชาชนได้หมดเพราะว่ามีความจำเป็นทางคดีที่ต้องเก็บเพื่อประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน หากเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างจะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยากขึ้น และทำให้คนร้ายที่ก่อเหตุไหวตัว
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวล่าสุด 2 คนมีความเชื่อมโยงหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ถือว่าควบคุมตัว เพียงแต่มีเบาะแสเพิ่มเติมว่าในวันที่เกิดเหตุมีบุคคลใดบ้างที่เข้ามาอยู่ในบริเวณที่ก่อเหตุ และคาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงการก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะนำตัวบุคคลดังกล่าวมาสอบถาม ซักถาม และเก็บดีเอ็นเอเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คาดว่าคนร้ายจะหนีออกจากพื้นที่ก่อเหตุเลยหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะมาในคืนก่อเหตุแล้วกลับออกไป แต่ไม่ทิ้งประเด็นที่ว่าคนบนเกาะมีส่วนรู้เห็น ก็จะเป็นขั้นตอนการสืบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ผู้ที่จะมาในคืนวันก่อเหตุมีการสกรีนหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก็ตั้งข้อสงสัยที่บุคคลที่มีเรือ หรือเรือที่เข้าออกเกาะตลอดเวลา เช่น เรือประมงที่มาหลบลมในคืนวันเกิดเหตุ จำนวน 10 ลำ ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังตำรวจน้ำ และสพฐ.ภาค 8 ให้นำตัวลูกเรือทั้งหมดมาตรวจสอบ และเก็บดีเอ็นเอทั้งหมด นอกจากนี้ยังหาเบาะแสว่าคืนวันเกิดเหตุมีเรือ หรือบุคคลที่เข้ามาแล้วออกไปกี่ราย ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มขึ้นพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กลุ่มคนหรือเรือประมงที่เข้ามาในบริเวณเกาะเต่าเยอะหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในเกาะเต่ามีประชากรไม่กี่พันคน แต่มีบุคคลที่เข้าออกจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากต่อการติดตามจับกุมคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งรางวัลนำจับคนร้ายจำนวน 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมด เคยมีประวัติอาชญากรหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก็ต้องขึ้นอยู่กับนายจ้างว่าจะมีการทำประวัติหรือไม่ อย่างก่อสร้างก็จะไม่มีการทำประวัติ จะมีส่วนหนึ่งเท่านั้นที่แจ้งว่ามีการทำประวัติ เช่น การทำประวัติที่พัก ฯลฯ