สุราษฎร์ธานี - เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังทุกหน่วยออกไล่ล่าคนร้ายฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ พร้อมเก็บพยานหลักฐานทั้งบนบก และในน้ำ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามท่าเรือ โดยมุ่งเป้าไปที่แรงงานต่างด้าว ลูกเรือประมง และคนเล่นกีตาร์ริมชายหาด ด้านผู้ประกอบการ ชาวบ้าน และตำรวจ ตั้งรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเบาะแส 100,000 บาท
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายฆ่าโหดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ราย อย่างโหดเหี้ยม ที่บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ไล่ล่าหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากหลักฐานเส้นผมในมือ และคราบอสุจิที่อยู่ในช่องคลอด และรูทวารหนักของฝ่ายหญิง รวมทั้งหลักฐานที่ได้จากฝ่ายชาย ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย จำนวน 12 คน รวมทั้งของเพื่อนชายผู้ตายที่เดินทางมาด้วยกันกับ นายเดวิด วิลเลี่ยม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเริ่มต้นค้นหากันใหม่ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา และ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ 10) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมงานลงพื้นที่เกาะเต่า หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ล่าสุด วันนี้ (19 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 5 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสังกัดที่เกี่ยวข้อง กำลังฝ่ายปกครอง ทหาร และผู้นำชุมชนกว่า 300 นาย ควานหาคนรายหรือเบาะแสที่อาจจะเชื่อมโยงไปยังผู้ก่อเหตุให้ได้ แม้ว่าจะค่อนข้างลำบากก็ตาม เพราะพยานหลักฐานบางส่วนขาดหายไปบ้าง โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ในเกาะเต่าประมาณ 4,000 คน รวมทั้งการเก็บพยานหลักฐานของผู้ต้องสงสัยตามคำแนะนำของ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 ที่มีความชำนาญ และเชี่ยวชาญ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งการให้พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปูพรมค้นหาภาพผู้ชายไม่สวมเสื้อที่วิ่งผ่านไปมาตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ และเวลาใกล้เคียงกันอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบเรือทุกชนิด ทั้งเรือประมง เรือท่องเที่ยว ที่ออกจากเกาะเต่าในช่วงเช้า หากมีเบาะแสว่าคนร้ายมีลักษณะใกล้เคียงกับแรงงานต่างด้าวชาวประมงได้ประสานกับตำรวจน้ำเรียกเรือประมงกลับมายังเกาะเต่า อีกทั้งค้นหาชายที่เล่นกีตาร์ริมชายหาด ใกล้กับงานปาร์ตี้ 2-3 คน มาตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าว แต่ยังไม่สามรถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนักในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงระดมกำลังค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยให้นักประดาน้ำดำค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติมในทะเล รัศมี 50 เมตร จากจุดเกิดเหตุเพื่อนำมาประกอบสำนวนทางคดี
ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดจุดที่ผู้ต้องสงสัยเดินผ่าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อวัดส่วนสูงของผู้ต้องสงสัย โดยนำบุคคลจริงลักษณะใกล้เคียงกับผู้ต้องสงสัยในภาพมาเปรียบเทียบ
ทางด้านตำรวจกองปราบปรามได้ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเทียบเรือโดยสาร เพื่อเก็บข้อมูลที่เดินทางออกจากเกาะเต่า ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นมา
ส่วนตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ได้ออกตรวจสอบเรือประมงที่มาลอยลำอยู่ในทะเลเกาะเต่าในช่วงระยะเวลาก่อน และหลังเกิดเหตุเพื่อทำประวัติ และเก็บดีเอ็นเอลูกเรือชาวต่างด้าวทุกคน พร้อมกับตรวจสอบเรือประมงที่ออกจากฝั่งหลังเกิดเหตุด้วย
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเต่า ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้าย จำนวน 50,000 บาท ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มเงินรางวัลนำจับอีก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาทอีกด้วย