xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจ๋นักศึกษาฝั่งธนฯ ยกพวกไล่ฟันคู่อริบาดเจ็บ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จับกุมนักศึกษาไล่ฟันคู่อริ พร้อมอาวุธมีด
ตร.บางโพงพางรวบโจ๋นักศึกษาฝั่งธนฯ ไล่ฟัน นศ.เทคนิคกรุงเทพบาดเจ็บ อ้างโกรธแค้นที่เพื่อนในกลุ่มถูกปาระเบิดปิงปอง จึงยกพวกเอาคืน ด้านตำรวจนครบาลเตรียมเก็บข้อมูลนักศึกษากลุ่มเสี่ยงใช้ความรุนแรง 14 สถาบันทั่ว กทม.

เมื่อเวลา 17.30 น.วานนี้ (19 ก.ย.) ที่ สน.บางโพงพาง พ.ต.อ.อดิศร เสมสวัสดิ์ ผกก.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง แถลงข่าวจับกุม นายวิวัฒน์ วงศ์คำจันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, นายปฏิพัทธิ์ ชูเมือง อายุ 19 ปี อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, นายรัฐพงษ์ กระโจมเค อายุ 18 ปี, นักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร, นายทศพล ผลาผล อายุ 18 ปี นักศึกษาเทคนิคโพลีพาณิชย์กรุงเทพ และผู้ต้องหาอีก 4 คน อายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีดยาว 3 เล่ม ระเบิดลูกบอลจำนวน 6 ลูก บรรจุในกระเป๋าสะพาย จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก ทะเบียน ยนจ 933 กทม. และจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว ทะเบียน อยน 729 กทม.

พ.ต.ท.ดุสิตกล่าวว่า จากกรณีนายพิทยา ทาโบราณ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ถูกกลุ่มคู่อริทำร้ายด้วยอาวุธมีดและปาระเบิดขวด ประทัดยักษ์ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 130/15 ถ.พระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่หาพยานหลักฐานจนได้เบาะแสเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบตัวคนร้ายว่าเป็นนักเรียนช่างกลย่านฝั่งธนฯ จึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางเข้ามอบตัวพร้อมผู้ปกครอง

พ.ต.ท.ดุสิตกล่าวต่อว่า นายทศพลผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้นายพิทยาผู้บาดเจ็บเคยมีเรื่องกับนายทศพลมาก่อน โดยนายทศพลเคยถูกปาระเบิดใส่บ้านมาก่อน จนกระทั่งวันเกิดเหตุนายทศพลและกลุ่มเพื่อนในละแวกบ้านได้กลับจากโรงเรียน ก่อนจะรวมตัวกันขี่จักรยานยนต์ออกไปข้างนอกก็พบกับคู่อริ โดยฝั่งผู้บาดเจ็บได้ปาระเบิดปิงปองใส่กลุ่มนายทศพลก่อน จึงพยายามเรียกมาคุย ก่อนที่อีกฝ่ายจะปาใส่อีกเป็นครั้งที่ 2 กลุ่มนายทศพลจึงเข้าไปกระชากก่อนจะใช้อาวุธมีดรุมกระหน่ำฟันผู้บาดเจ็บ และหลบหนีไป กลุ่มผู้ต้องหายังให้การอีกว่าระเบิดปิงปองที่ได้มาไปหาซื้อมาจากร้านขายพลุในราคาถุงละ 100 บาท ส่วนอาวุธมีดหาซื้อมาจากร้านขายมีด

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันบุกรุกโดยมีอาวุธหรือกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บช.น.ถกหาแนวทางแก้ปัญหาเด็กช่างตีกัน

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบช.น.4 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อวางมาตรการเฝ้าระวังเหตุนักเรียนต่างสถาบันยกพวกใช้กำลังเข้าปะทะ และแก้แค้นไล่ยิงคู่อริ

พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวภายหลังการประชุมว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจห่วงใยเป็นอย่างมาก เพราะทุกชีวิตมีค่า บางครั้งเหตุการณ์ไปเกิดขึ้นกับบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่กลับได้รับผลกระทบ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากคู่กรณีที่เคยปะทะกันอยู่ ในส่วนประเด็นที่ตำรวจต้องการทราบข้อมูลของกลุ่มเสี่ยงของสถาบันต่างๆ ทั้งนี้ บุคคลที่จะรู้เรื่องดีว่านักเรียนนักศึกษามีความประพฤติอย่างไร คืออาจารย์ของสถาบันการศึกษานั้นๆ จึงขอให้ช่วยนำข้อมูลของนักเรียนที่ถูกจัดไว้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่มีแนวโน้มจะมีปัญหามอบให้ตำรวจ เพื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ยุทธวิธีการป้องกันการก่อเหตุ หรือเข้าถึงตัวผู้ที่จะกระทำผิดให้ได้ต่อไป

พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวถึงกรณีมีบุคคลบางกลุ่มมองว่าการยกพวกตีกันกลายเป็นประเพณีและจะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไรนั้นว่า ในส่วนที่บางกลุ่มบุคคลมองเป็นประเพณีหรือความเชื่อนั้นจะต้องมีการแก้ไขในระยะยาว เมื่อเราทราบว่ากลุ่มไหนคือกลุ่มเสี่ยงเป็นกลุ่มติดอาวุธและใช้กำลัง ขอเพียงได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนนี้คิดว่าปัญหานี้แก้ไขได้และไม่ควรมีความสูญเสียอีกแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปฝ่ายสืบสวนจะลงพื้นที่ดำเนินการแผนดังกล่าวทันที และขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปสู่ข้อมูลด้านอื่นด้วย ทั้งเครือข่ายศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่ ที่เข้ามาร่วมก่อเหตุ ส่วนจะนำกำลังลงพื้นที่ทันทีหรือไม่นั้น คงต้องให้ได้ข้อมูลกลุ่มเสี่ยงมาก่อนอาจจะ 50-60 คน เป็นหน้าที่ของสถานบันคัดกรองให้เรา โดยจะประสานทุกสถาบันทั่วกรุงเทพฯ ที่มีแนวโน้มจะก่อเหตุ

พ.ต.อ.เจริญกล่าวว่า การประชุมวันนี้เน้นในเรื่องการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังในเรื่องของการใช้กำลังเข้าปะทะกันระหว่างสถาบันต่างๆ เนื่องจากมีเหตุนักศึกษาทำร้ายกันจนถึงแก่ความตายในหลายท้องที่ ได้แก่ บางซื่อ หัวหมาก และปทุมวัน โดยเน้นในการวางแผนป้องกัน เฉพาะการสืบสวนจับกุมหลังเกิดเหตุแล้วจะทำอย่างไรให้สามารถจับกุมได้รวดเร็วที่สุด

พ.ต.อ.นพศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมได้กำหนดแนวทางในการป้องกันเฝ้าระวังเหตุนักศึกษาตีกัน หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้ว จะต้องทำการสืบสวนอย่างไรบ้าง โดยให้ทางฝ่ายสืบสวนจัดเก็บข้อมูลจากนักศึกษากลุ่มเสี่ยงในสถาบันต่างๆ ประมาณ 14 สถาบันการศึกษาทั่วกรุงเทพฯ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความร่วมมือกับอาจารย์และผู้ปกครอง เพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปช่วยเหลือ

กำลังโหลดความคิดเห็น