พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ส่งฟ้อง “เสธ.หยอย” คดีครอบครองอาวุธสงครามแล้ว ยันเป็นผู้จัดหาอาวุธให้ชายชุดดำใช้ก่อเหตุแยกคอกวัวปี 53 ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ระบุคดีนี้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 11 ราย ยังหลบหนีอีก 4 คน
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีที่ได้นัดหมาย พล.ท.มนัส เปาริก หรือเสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง เพื่อส่งฟ้องพร้อมสำนวนคดีดังกล่าวต่ออัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ว่าตามที่พนักงานสอบสวน บก.ป.นัดให้ พล.ท.มนัส เข้ารายงานตัวที่ บก.ป. แต่ทาง พล.ท.มนัสได้ประสานมาว่าจะขอเดินทางไปยังอัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี พนักงานสอบสวนจึงนำสำนวนคดีดังกล่าวเดินทางไปสมทบ
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า คดีนี้ทางคณะพนักงานสอบสวนทั้ง บก.ป.และ บช.ภ.1 ได้ดำเนินการตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ที่ 312/2557 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2557 ซึ่งมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะ ทำการสืบสวนสอบสวนคดีอาวุธสงคราม ขณะนี้ในคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาทั้งหมด11 คน จับกุมตัวได้แล้ว 7 คน และออกหมายจับไว้ 4 คน ในจำนวนที่จับกุมได้แล้ว ประกอบด้วย พล.ท.มนัส เปาริก , นายสมเจตน์ คงวัฒนะ , นายจิราวัฒน์ อรชุนกะ , นายภคภูมิ โกศินานนท์ , นายอภิชาติ หรืออัคคี พวงเพ็ชร , นายพีรพงษ์ หรือธานินทร์ สินธุสนธิชาติ และนายวัฒนา หรือศิวะ ทรัพย์วิเชียร ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ ประกอบด้วย นายจักรภพ เพ็ญแข , นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต , นายกฤษณะ ทัพไทยและนายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนำสำนวนคดีสั่งฟ้องต่ออัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี หลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับการพิจารณาสั่งคดีของทางอัยการต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี นั้น ทาง พล.ต.อ.สมยศ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วย ได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุม
หากจับกุมตัวได้แล้วก็นำเข้ามาในสำนวนคดีดังกล่าว
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวด้วยว่า ตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนที่นำสำนวนคดีเดินทางไปยังอัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี แล้วว่า ได้สั่งฟ้องคดีพร้อมกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้ขอประกันตัวไปในชั้นสอบสวนก็ถือว่าคดีนี้มีความสำคัญและเชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงอีกหลายคดี ซึ่งได้แยกคดีไว้แล้ว แต่มีความเชื่อมโยงถึงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.มนัส มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายชุดดำ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ยิงใส่ทหารและประชาชน ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)บริเวณแยกคอกวัว เขตพระนคร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่ามีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของการจัดหาอาวุธที่ถูกนำไปใช้ก่อเหตุ แต่ในส่วนของเส้นทางการเงินนั้น ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง