แจ้งจับหลวงปู่พิมพ์ละสังขาร เข้าข่ายอวดอุตริ

แจ้งจับหลวงปู่พิมพ์อ้างละสังขาร เข้าข่ายหลอกลวง อวดอุตริมนุสธรรม ชี้เคยประกาศละสังขารมาแล้วบ่อยครั้ง ด้านตร.เตรียมประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพระครูเวฬุวัน จันทรังษี อายุ 65 ปี หรือ หลวงปู่พิมพ์ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน จ.ชัยภูมิ ที่ประกาศละสังขารล่วงหน้าในวันที่ 9 กันยายน เวลา 21.00 น. ซึ่งตรงกับวันเกิด ด้วยการเข้าไปนอนในโลงศพ แต่ภายหลังถูกเกลี้ยกล่อมให้ล้มเลิกการละสังขารดังกล่าว ก่อนจะถูกพาส่ง โรงพยาบาลคอนสาร และ โรงพยาบาลชัยภูมิ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว ว่าเข้าข่ายหลอกลวง อวดอุตริมนุสธรรม



นายสงกานต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง นายพรศักดิ์ เจียรนัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ขอให้ตนประสานกับทาง บก.ป. เพื่อทำความจริงให้ปรากฎในเรื่องนี้ รวมทั้งกรรมการวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า หลวงปู่พิมพ์ จะละสังขารแน่นอน 1000% เรามีหลักฐานทั้งหมด และวันที่ตนได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านกว่า 50 คน อยู่ด้วยกัน มีการสอบถามว่าหลวงปู่พิมพ์ เคยประกาศจะละสังขาร กี่ครั้งแล้ว ชาวบ้านก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เคยประกาศมา 3 - 4 ครั้งแล้ว ต่อมาจึงมีการประชุมและมีการสั่งการให้พาหลวงปู่พิมพ์ออกจากโลงศพ

นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวนั้นหมิ่นเหม่กับการหลอกลวงประชาชน เพราะหลวงปู่พิมพ์ รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ละสังขารแน่นอน ฉะนั้น ไม่ว่าจะมีการช่วยเหลือ หรือมีพระผู้ใหญ่มาปกป้องประการใดก็จะเป็นความผิด เพราะหลวงปู่พิมพ์ บอกว่าจะลงไปพบกับพญามัจจุราช อย่างนี้จึงถือเป็นการอวดอุตริมนุสธรรม เราจึงต้องการให้การกระทำของหลวงปู่พิมพ์ ได้ปรากฎต่อหน้าสาธารณชน รวมทั้งเรื่องของเงินบริจาค และรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ทาง บก.ป.สืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นความผิดก็ขอให้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

“ผมอยากขอให้ชาวบ้านที่เคยให้ข้อมูลกับทางผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ได้เข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ป. ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับพระภิกษุสงฆ์รูปอื่นที่คิดจะกระทำเช่นนี้ ผมเชื่อว่าถ้าเราดำเนินการอย่างจริงจัง คงไม่มีหลวงปู่พิมพ์ ที่ 2 อีกแล้ว” นายสงกานต์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า กรณีนี้เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษทางพนักงานสอบสวนก็จะรับเรื่องไว้ ก่อนจะสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำที่เป็นความผิดฐานใดก็จะพิจารณาดำเนินคดี อย่างไรก็ดี คงจะต้องมีการประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน หลังจากนั้นจึงมีความเห็นของพนักงานสอบสวนอีกครั้ง