xs
xsm
sm
md
lg

กองปรามหิ้ว 5 ชุดดำยิงทหารฝากขัง ก่อนคุมตัวไปเรือนจำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


กองปราบหิ้ว 5 ชุดดำเอี่ยวยิงเสธ.เปาฝากขัง พร้อมค้านประกัน ระบุคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ หากปล่อยตัวเกรงจะหลบหนี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง จนท.ราชทัณฑ์จึงคุมตัวไปเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลาง

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.1บก.ป.และกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโด คุมตัวผู้ต้องหากลุ่มชายชุดดำ 5 ราย ประกอบด้วยนายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มสี อายุ 45 ปี นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 33 ปี นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 45 ปี และนางปุณิกา ชูศรี อายุ 39 ปี ที่ร่วมกันก่อเหตุความรุนแรงใช้อาวุธสงครามยิง และปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ทหาร ช่วงการชุมนุมขณะเจ้าหน้าที่ทหารขอคืนพื้นที่เมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ปี 2553 บริเวณแยกคอกวัว ถ.ตะนาวและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ไปฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญา ถ.รัชดา ข้อหาร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธ เครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะ ใช้อาวุธสงครามยิงและขว้างวัตถุระเบิด

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นระยะเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 - 24 กันยายน เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนขยายผล รวมทั้งสอบพยานบุคคลอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็รอผลพิสูจน์พยานวัตถุซึ่งเป็นของกลาง เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ อีกหลายคน เพราะตามกฎหมายสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อทำการสอบสวนได้ 48 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดแต่ยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้นจึงต้องนำตัวฝากขังไปก่อนแล้วค่อยเบิกตัวสอบเพิ่มเติม โดยการฝากขังครั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องเพื่อคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่งผลต่อรูปคดี และหากประกันตัวไปแล้วอาจมีการข่มขู่พยานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหาในคดีเดียวกันซึ่งถูกออกหมายจับอีก 2 คนที่ยังจับไม่ได้ เจ้าหน้าที่มีข้อมูลรู้ตัว อยู่ระหว่างเร่งรัดสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม เนื่องจาก หัวหน้าพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีนี้คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. ได้สั่งกำชับให้เร่งรัดคดี เพราะคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบลักษณะนี้มีกว่า 72 คดี ที่พล.ต.อ.สมยศ ดูแลสำนวนคดีอยู่ โดยมีการทำงานคลี่คลายคดีร่วมกันหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย บช.น. ,บช.ภ.1 ,บช.ภ.2 ,บช.ภ.4 และบก.ป.

รอง ผบก.ป.กล่าวด้วยว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 รายนี้ เรามีข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายเหตุการณ์ในความรุนแรงการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมา และมีกลุ่มคนที่ร่วมก่อเหตุด้วยกันหลายคน อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดรัดกุมละเอียดรอบคอบ เพื่อนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี” รองผบก.ป. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาฝากขังอาญา ถ.รัชดา ได้มีญาติของ นายปรีชา กับนายกิตติศักดิ์ มาเยี่ยม โดนญาติของนายกิตติศักดิ์มาทั้งภรรยาและลูกสาวอีก 2 คน ขณะเดียวกันนายกิตติศักดิ์ได้พูดปลอบใจภรรยาและลูกพร้อมกับสุนัขที่เลี้ยงมากับมือว่า อดทนรอหน่อยนะ รอได้ไหมประมาณสัก 10 ปี ก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้พูดคุยกับญาติว่าเตรียมทำเรื่องขอประกันตัว และเตรียมหลักทรัพย์ให้พร้อม เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไม่ได้ถูกดำเนินคดีฆ่าคนตาย แค่ครอบครองอาวุธ ซึ่งจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ควบคุมตัวขบวนการชายชุดดำ ประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี หรือ อ้วน อายุ 45 ปี, นายปรีชา อยู่เย็น หรือไก่เตี้ย อายุ 24 ปี, นายรณฤทธิ์ สุริชา หรือนะ อายุ 33 ปี, นายชำนาญ ภาคีฉาย หรือเล็ก อายุ 45 ปี และนางปุณิกา ชูศรี หรือ อร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, พกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันควร กรณีที่ผู้ต้องหาทั้งหมดใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารจากเหตุการณ์ความรุนแรงช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือน เม.ย. 2553 เป็นเหตุให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่นำตัวมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งห้าจากศาลอาญา ลงวันที่ 10 ก.ย.57 กระทั่งจับกุมพวกผู้ต้องหา พร้อมแจ้งขอกล่าวหาดำเนินคดีให้ทราบโดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ขณะนี้พนักงานสอบสวนคุมตัวผู้ต้องหาครบ 48 ชม. แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบสวนพยานเพิ่มบุคคลอีก 6 ปาก รอผลการตรวจรอยพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองพิสูจน์หลักฐาน และอื่นๆ

ทั้งนี้ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 - 24 ก.ย.2557 เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานบุคคลอีก 6 ปาก รอผลการตรวจรอยพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองพิสูจน์หลักฐาน และอื่นๆ

ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดในข้อหาร้ายแรงเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชนอีกทั้งยังมีผู้ร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหาอีกจำนวนหลายคนที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมหากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงหรือทำลายพยานหลักฐานและเกรงว่าจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

อย่างไรก็ตามญาติของนางปุณิกา ชูศรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหญิงเพียงคนเดียว ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินที่ย่านอ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ราคาประเมิน 1.5 ล้านบาทเศษขอปล่อยชั่วคราว ต่อมาศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกัน เนื่องจากหากปล่อยชั่วคราวเกรงจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง ส่วนผู้ต้องหาชายอีก 4 คน ไม่มีญาติยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป




















กำลังโหลดความคิดเห็น