ตร.รอสอบ “ชิเกตะ” ก่อนสรุปสำนวน ออกหมายเรียกซ้ำ

ตร.สอบปากคำแม่อุ้มบุญทั้ง 11 คนครบแล้ว รอเพียงคำให้การเจ้าของนำเชื้อชาวญี่ปุ่นว่านำทารกออกไปต่างประเทศ เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เตรียมออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ส่วนการที่จะส่ง ตร.เดินทางไปสอบปากคำนายชิเกตะที่ญี่ปุ่นนั้น เป็นเพียงข้อเสนอของทนายความ

วันนี้ (25 ส.ค.) พ.ต.อ.ภาคภูม พูลศิริโภคา หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว กล่าวถึงความคืบหน้าคดีอุ้มบุญเกี่ยวกับเด็กทารกที่เป็นลูกของนายชิเกตะ มัตซึโตกิ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานที่เป็นแม่รับจ้างอุ้มบุญทั้ง 11 คนไว้ครบแล้ว รวมถึงพยานปากอื่นๆ ด้วย ในส่วนของสำนวนคดีนั้นใกล้แล้วเสร็จ รอเพียงคำให้การของนายชิเกตะที่จะต้องเข้ามาให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนว่ากรณีที่ทำเด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คนนั้นมีวัตถุประสงค์ใด หากพบว่าเป็นการนำไปเพื่อการค้ามนุษย์ ก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา และหากพบว่าเป็นการกระทำภายนอกราชอาณาจักรก็จะประสานพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนที่ต่างประเทศด้วย

พ.ต.อ.ภาคภูมกล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานกับทนายความของ นายชิเกตะขอให้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางทนายความว่าจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันเวลาใด ทั้งนี้ตำรวจจะมีการออกหมายเรียกนายชิเกตะเป็นครั้งที่ 2 ในเร็วๆ นี้ ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ สน.ลุมพินีนั้นได้มีการประสานข้อมูลกันโดยตลอด

พ.ต.อ.ภาคภูมกล่าวภายหลังจากสอบปากคำนายมงคล ศรีสังข์ นักสังคมสงเคราะห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ถึงเหตุการณ์วันที่เข้าไปตรวจสอบอาคารเดอะนิช คอนโดมิเนียม ห้อง เลขที่ 466/151 ในซอยลาดพร้าว 130 ว่า รู้เบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับเด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คนได้อย่างไร และการเข้าไปตรวจสอบมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ หากนายชิเกตะยังไม่ยอมมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน คดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดได้เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่สมบูรณ์ และเด็กทั้งหมดจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่หากคดียังยืดเยื้อและแม่อุ้มบุญคนใดมีความประสงค์จะรับเด็กไปดูแลก็เป็นสิทธิที่กระทำได้ตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าผู้บังคับบัญชามีการประสานงานกับตำรวจสากลในการติดตามข้อมูลของนายชิเกตะที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่ต้องติดตามข้อมูลจากตำรวจสากล ตนไม่สามารถให้ข้อมูลตรงนั้นได้

พ.ต.อ.ภาคภูมกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีสื่อรายงานข่าวว่าทางการไทยจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบปากคำนายชิเกตะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ตอนนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอจากทนายความของนายชิเกตะว่าหากตำรวจจะเดินทางไปสอบปากคำที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีความเป็นไปได้ที่จะประสานนายชิเกตะมาให้ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง เพราะทางลูกความไม่มั่นใจในความปลอดภัยหากจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำในประเทศไทย