หนุ่มญี่ปุ่นเจ้าของน้ำเชื้อทารกอุ้มบุญ ส่งตัวแทนเข้าพบ ตร.ลาดพร้าว พร้อมนำตัวอย่างดีเอ็นเอ ซึ่งได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐมาแสดงผลพร้อมเอกสารการชี้แจงรายละเอียด ด้านผลตรวจโครโมโซวายเด็กทั้ง 12 คน พบว่าเป็นโครโมโซมเดียวกันทั้งหมด
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ สน.ลาดพร้าว พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. และชุดสอบสวนได้ทำการประชุมเร่งรัดติดตามการดำเนินการในคดีอุ้มบุญซึ่งเคยสั่งการไปแล้วบางประการและสั่งการเพิ่มเติม
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานงานไปยังหน่วยราชการในเรื่องของเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในคดี แต่ยังคงต้องใช้เวลารอรับเอกสารและนำมาตรวจสอบอีกครั้ง และการประสานงานกับทนายความที่มาดูแลคดีต่อจากทนายคนเก่าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งในวันพุธจะมีการประชุมอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยจะมี พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. เป็นผู้ดำเนินการในส่วนต่างๆ ของคดีนี้
จากการตรวจสอบผลโครโมโซมวายของเด็กทั้ง 12 คนนั้น พบว่าเป็นโครโมโซมเดียวกันทั้งหมด ส่วนในเรื่องของนายชิเกตะ เจ้าของน้ำเชื้อยังไม่มีการติดต่อเข้ามาและไม่ได้รับรายงานว่าได้เดินทางมาประเทศไทยแต่อย่างใด
จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. นายก้อง สุริยมณฑล รับมอบอำนาจจาก นายชิเกตะ มิตซูโตกิ พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว เพื่อนำหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยไม่เปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
นายก้อง กล่าวว่า ตนรับมอบอำนาจจากนายชิเกตะให้ทำหนังสือชี้แจงมายังพนักงานสอบสวน โดยครั้งแรกได้มายื่นแล้วเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ต่อมา วันที่ 14 ส.ค. ได้มายื่นเป็นครั้งที่ 2 และวันนี้ (18 ส.ค.) มายื่นเป็นครั้งที่ 3 โดยนำตัวอย่างดีเอ็นเอ ซึ่งได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐและได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากทางญี่ปุ่นแล้วว่าเป็นดีเอ็นเอของนายชิเกตะจริงมามอบให้พนักงานสอบสวนอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ตนขออนุญาตไม่กล่าวถึง เนื่องจากระบุไว้ในเอกสารและหลักฐานหมดแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า นายชิเกตะไม่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตามที่เป็นข่าวก่อนหน้าแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าจะเดินทางเข้ามาหรือไม่ ในส่วนกรณีว่าเหตุใดนายชิเกตะจึงต้องการมีลูกเยอะนั้น มีคำตอบอยู่ในเอกสารชี้แจงหมดแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถเปิดเผยได้ ในกรณีที่นายชิเกตะยังไม่เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเองนั้น เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการประสานงานอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า นายชิเกตะ ต้องการแสดงความเป็นพ่อของเด็กๆจริง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะรับรองความต้องการดังกล่าวหรือไม่