ศาลธัญบุรีอนุมัติหมายจับ “วิศกร-บริษัทผู้รับเหมา” ก่อสร้างคอนโดปทุมฯ ที่พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ฐานกระทำการโดยประมาท ระดมเร่งค้นหาคนงานใต้ซากตึก หลังญาติเข้ามาร้องเรียนมีผู้สูญหายเพิ่ม
วันนี้ (13 ส.ค.) พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีกรณีอาคารคอนโดมิเนียมกำลังก่อสร้าง สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณถนนเลียบคลอง 6 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้พังถล่มลงมา เบื้องต้นหลังจากออกหมายเรียกแล้วผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตึกถล่มแต่ไม่มีใครมารายงานตัว พนักงานสอบสวนจึงได้ทำคำร้องเพื่อยื่นต่อศาลธัญบุรีในการขออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน ประกอบด้วย วิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง และนายช่างที่เกี่ยวข้อง ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีนางเพ็ญศรี กิติไพศาลนนท์ เจ้าของอาคารคอนโด พร้อมด้วยนายศักดิ์สิทธิ์ อินทร์ทอง ซึ่งเป็นวิศวกร ออกแบบก่อสร้าง และนายชานัยชนม์ เกิดเทศ เจ้าของ บริษัทปลูกแปลง จำกัด ผู้ก่อสร้างอาคารคอนโดมิเนียมโดยมีนายจิระ ขันมั่น ที่เป็นคนงานหรือโฟร์แมน ส่วนนายเดี่ยว ปราบโจร อายุ ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้รับเหมา หลังเกิดเหตุได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้าแล้วเมื่อวานนี้ 12 ส.ค.57
จากการตรวจสอบสอบพบว่าบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งนายเดี่ยว เป็นบริษัทผู้รับเหมาช่วง ดำเนินการก่อสร้างอาคาร ที่มีการก่อสร้างเสร็จไปแล้วจำนวน 3 อาคารมีผู้เข้าพักอาศัยไปแล้ว และกำลังก่อสร้างใหม่อีก 2 อาคาร เสร็จ 1 อาคาร และกำลังจะเสร็จอีกหนึ่งอาคารที่ได้เกิดเหตุพังลงมาเสียก่อนและทับคนงานเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านการเข้ารื้ออาคารที่ถล่มเพื่อตรวจหาคนงานที่คาดว่ายังติดอยู่ภายในซากเพิ่มเติมวันนี้นั้น เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจลงพื้นที่วางแผนการดำเนินการค้นหาร่างคนงานอย่างต่อเนื่องในสายวันนี้ ในขณะนี้ได้มีการกันพื้นที่โดยรอบตัวอาคารไม่ให้บุคคลอื่นเข้าใกล้ตัวอาคารเด็ดขาดเนื่องจากเกรงว่าจะมีการยุบตัว และการเคลื่อนตัวของแผ่นปูนที่ถล่มลงมาเพราะเมื่อวานนี้มีฝนตก และได้ให้สุนัขตำรวจเข้าดมกลิ่นตรวจสอบจุดที่คาดว่าจะมีร่างคนงานที่เสียชีวิตติดอยู่ที่ซากอาคาร เพื่อให้ทราบจุดที่คาดว่ามีซากคนงานอยู่จุดใดโซนใดของอาคาร จากนั้นจะใช้กล้องส่องดูตามซอกแผ่นปูน และพื้นที่ด้านใต้อาคารเพื่อตรวจหาและฟังเสียงผู้รอดชีวิต และจะมาประเมินประชุมอีกครั้งเพื่อกำหนดการดำเนินงานรื้อปล่องลิฟต์ออกก่อน เพื่อความปลอดภัยในการค้นหา เพราะเกรงว่าปล่องลิฟต์จะโค่นลงมาขณะรื้อ แล้วจะใช้เครื่องจักรรื้อซากปูนที่ถล่มทั้งหมดต่อไป
ส่วนบรรยากาศโดยรอบมีบรรดาญาติๆ ของคนงานที่มารอความหวังจะเจอร่าง ไม่ว่าจะรอดชีวิตหรือเสียชีวิตก็ตาม นอกจากนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งศูนย์รับแจ้งคนหาย เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าจะยังมีผู้ติดค้างภายในซากอาคารอยู่อีกจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากพบว่าเริ่มมีญาติๆ ของคนงานเข้ามาร้องเรียนเพิ่มอีก จึงคาดว่าจะมีคนงานติดอยู่ภายในอาคารมากกว่าจำนวนที่ทราบเบื้องต้น