ม.ล.ปนัดดา และตัวแทน คสช. รุดตรวจสอบเหตุคอนโด 6 ชั้น คลองหก ปทุมฯถล่ม พร้อมสั่งเร่งช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ ด้านนายกวิศวกรรมสถานฯ ชี้การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ล่าสุด เจ้าหน้าที่เร่งช่วย 2 คนงาน ที่ส่งเสียงใต้ซากปูนได้เพิ่มแล้ว ล่าตัว “จิระ” วิศวกรคุมงานก่อสร้าง
วันนี้ (12 ส.ค.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ณ อยุธยา ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตัวแทน คสช. พ.อ.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอาคารยูเพลสคอนโดมิเนียม ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างภายใน ซ.คลองหกตะวันออก 18 หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายผาชัย โปริตานนท์ นายอำเภอคลองหลวง และ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตามจุดต่างๆของอาคาร โดยมีเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปทุมธานี, องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น คลอง 6 กู้ภัยร่วมกตัญญู, รพ.ธัญบุรี, รพ.ธรรมศาสตร์, รพ.คลองหลวง, รพ.ลำลูกกา
โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ณ อยุธยา เปิดเผยว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้เป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยได้มอบหมายให้ตนเองพร้อมคณะ มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยทหารพัฒนา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร เหยี่ยวเวหาปทุมธานี และฝ่ายปกครองนำกำลังกว่า 500 นาย มาช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิตตลอดเวลา หลังจากเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยทางหัวหน้า คสช. ได้สั่งการให้การช่วยเหลือการกู้ซากอาคารอย่างเต็มที่ หากขาดเหลืออุปกรณ์ใดๆ ทาง คสช. จะสนับสนุนทุกอย่าง โดยเหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น หากทางวิศวกรผู้ปฏิบัติงานมีความรอบคอบมากกว่านี้
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากตนเองเดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่อาคาร พบว่าโครงสร้างอาคารรับน้ำหนักจากชั้นบนไม่ไหว เพราะตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าอาคารแห่งนี้ไม่มีคานที่มีความแข็งแรงมาก่อสร้าง ทางวิศวกรได้ใช้สลิงขึง และหล่อปูนเป็นแบบเท่านั้น ซึ่งวัสดุในการก่อสร้างอาจจะไม่ได้มาตรฐาน และมีการเร่งรัดการก่อสร้างให้เสร็จเร็วเกินไป ซึ่งทางวิศวกรรมสถานได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหาวัสดุจำพวกสลิงโครงสร้างต่างๆ มาทำการพิสูจน์ต่อไป
ด้าน พ.อ.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ผู้บัญชาการเหตุการณ์ตึกถล่มได้เปิดเผยว่าทางกองทัพบกได้ส่งหน่วยทหารพัฒนานำกำลังทหารรถเครน รถเครื่องมือหนักเข้ามาสนับสนุนตลอดทั้งคืนแล้ว ซึ่งพบผู้ที่ติดคาอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารโซนบีอีก 1 ราย คือ นายพิเชษฐ์ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 40 ปี เป็นเจ้าหน้าที่วางสลิงของอาคารดังกล่าว ถูกคานปูนน้ำหนักหนา 10 เซนติเมตร ทับบริเวณช่วงลำตัวด่านล่าง เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมใช้อุปกรณ์ยกรื้อถอนซากปรักหักพังออก เพื่อช่วยผู้ที่ติดค้างออกจากซากอาคาร โดยหนุ่มเคราะห์ร้ายยังคงมีสติและพูดคุยโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ได้ดีตั้งแต่เมื่อคืน แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเศษปูนลงมาทับทั้ง 6 ชั้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาขุดเจาะลงไปหาตัวผู้บาดเจ็บ จนถึงขณะนี้เวลา 11.00 น. ยังไม่สามารถนำออกมาได้ ทำให้นายพิเชษฐ์ได้เสียเสียชีวิตลงแล้ว สาเหตุมาจากเสียเลือดมาก
นอกจากนี้ ยังพบผู้รอดชีวิตอีก 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยทุกหน่วยงาน อยู่ระหว่างเร่งระดมใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกซากปรักหักพังออก แล้วใช้แม่แรงค้ำยันไม่ให้ซากปรักหักพังร่วงทับร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบริเวณทิศตะวันตกของอาคาร หรือโซนบี เจ้าหน้าที่พบร่างผู้บาดเจ็บอีก 1 รายชื่อ นายพาน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 50 ปี ยังมีอาการตอบสนองสามารถพูดโต้ตอบเจ้าหน้าที่ได้ โดยบอกว่าห้องถัดไปจากที่ตนเองอยู่ซึ่งเป็นห้องว่าง ซึ่งมีคนงานก่อสร้างที่นอนพักอยู่ เพราะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุอีก 7 คน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด เพราะไม่สามารถตอบโต้เสียงสนทนาของตนเองได้ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งตำรวจทหารยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือต่อไป
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมบุคลากรและอุปกรณ์เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บริเวนฝั่งโซนบี ซึ่งยังมีชีวิตรอดอยู่ โดยเบื้องต้นทราบว่าเป็นชายชาวไทย อายุประมาณ 45 ปี เป็นเจ้าหน้าที่วางสลิงของอาคารดังกล่าว โดยถูกคานปูนหนา 10 ซม. ทับบริเวณช่วงลำตัว เจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันนำตัวออกมา โดยใช้อุปกรณ์ยกบริเวณด้านล่างเพื่อพยายามนำตัวที่ถูกทับอยู่ออกมา ซึ่งเบื้องต้นชายคนดังกล่าว ยังคงพูดจาตอบโต้ทางเจ้าหน้าที่ได้
ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 ส.ค.) เจ้าหน้าที่เร่งช่วย 2 คนงานส่งเสียงใต้ซากปูน จากเดิมที่ได้ยินเสียง 3 คน ส่วนยอดคนงานที่ได้รับแจ้งมี 32 คน เป็นเด็กอีก 1 คน รวมเป็น 33 คน เป็นคนไทย 7 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว บางส่วนติดอยู่ในซากอาคาร เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือ ขณะที่การค้นหาผู้รอดชีวิตพบอุปสรรค เนื่องจากขาดเครื่องมือสกัดปูนขนาดใหญ่ ทำให้ยังไม่สามารถช่วยผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากได้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 4 ราย บาดเจ็บอีก 24 ราย
เบื้องต้นทราบชื่อวิศวกร คือ นายจิระ ขันมั่น แต่ยังไม่พบตัวและยังติดต่อไม่ได้ ชื่อบริษัทรับเหมาปลูกแปลง จำกัด ส่วนเหตุของการถล่มลงมา น่าจะเกิดจากการเทปูนที่ชั้น 6 ทำให้ชั้นอื่นไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงถล่มลงมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องติดตามตัววิศวกรรายนี้มาสอบสวนต่อไป
