xs
xsm
sm
md
lg

“รองเอก” เร่งรัดคดีอุ้มบุญ พร้อมให้ตรวจเอกลักษณ์บุคคลหนุ่มญี่ปุ่น!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“รองเอก” ถกคดีอุ้มบุญ เผยรักษาการ ผบ.ตร. สั่งตำรวจดูแลทารกทั้ง 9 คนให้ปลอดภัย และบังคับใช้ กม. อย่างเคร่งครัด หากใครทำผิดให้ดำเนินการทันที พร้อมประสานทุกทางเพื่อนำตัวหนุ่มญี่ปุ่นมาพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเป็นพ่อเด็กอุ้มบุญจริง หรือไม่ และไขข้อข้องใจนำเด็กทารกจำนวนมากไปใช้วัตถุประสงค์ใด เอี่ยวค้ามนุษย์หรือไม่ ขณะทนายความชิงถอนตัว ไม่ขอยุ่งเกี่ยวคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมคณะทำงานคดีอุ้มบุญ พร้อมด้วย พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร. งานกฎหมายและคดี ตร., พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น., สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.), กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4), สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว (สน.ลาดพร้าว), กองกำลังการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) และกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี แนวทางการสืบสวนหาข้อเท็จจริง และการวางมาตรการป้องกัน

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ในวันนี้ ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ เป็นหัวหน้าชุดร่วมกับ พล.ต.ท.จงเจตน์ ในการทำงานด้านการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งได้รับรายงานจาก ตม. ว่า มีการพาเด็ก 4 คน ออกไปนอกประเทศ 3 ครั้ง ซึ่งถือหนังสือเดินทางของประเทศไทยในการออกนอกประเทศ โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้ดูแลเด็กทารกทั้ง 9 คน ที่พบในคอนโดย่านลาดพร้าว ให้มีความปลอดภัยให้ความช่วยเหลือดูแลทารกที่เกิดจากการอุ้มบุญ และมีมาตรการทางกฎหมายเพื่อเข้ามาดูแลศีลธรรมและจรรยาบรรณต่างๆ โดยหากพบบุคคลที่เกี่ยวข้องทำผิดกฎหมายจะดำเนินการทันที

พล.ต.อ.เอก กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นในการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคล พบว่า เด็กทั้ง 9 คน ที่พบในคอนโดย่านลาดพร้าว มีพ่อคนเดียวกัน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น นายชิเกตะ มิตซูโตกิ หรือไม่ เนื่องจากต้องนำตัวนายชิเกตะ มาตรวจเอกลักษณ์บุคคลเทียบกับเด็กทั้ง 9 คนอีกครั้ง ส่วนเด็กอีก 6 คน ยังไม่ได้รับการตรวจเอกลักษณ์บุคคล แต่มีสูติบัตรยืนยันว่านายชิเกตะ เป็นพ่อเด็ก ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่พยายามประสานทุกทาง เพื่อให้นายชิเกตะ มาตรวจเอกลักษณ์บุคคลเทียบกับเด็ก ว่า เป็นพ่อของเด็กจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการประสานกับทางการประเทศญี่ปุ่น กัมพูชา และ อินเดีย ที่มีรายงานว่า นายชิเกตะ ได้เดินทางไป และล่าสุด ก็มีรายงานว่า นายชิเกตะ ได้เดินทางเข้าไปที่ประเทศมาเก๊า ซึ่งทางเรากำลังประสานไปอีกด้วย

พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า ทางด้านการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดกับนายชิเกตะ แต่ได้มีการดำเนินคดีกับการเปิดคลินิกรับทำอุ้มบุญ รวมทั้งแพทย์ผู้รับที่รับทำอุ้มบุญด้วย นอกจากนี้ ทางตำรวจจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ในข้อกฎหมายในการกระทำความผิด พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะดำเนินการทุกวิถีทางมาสอบถามข้อเท็จจริงให้ได้ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายรัฐประธาน ตุลาธร ทนายความและผู้ดูแลทางกฎหมายของเด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คน ได้ถอนตัวจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีอุ้มบุญแล้ว ซึ่งตนยืนยันว่า การถอนตัวของทนายดังกล่าวไม่มีผลต่อรูปคดี สามารถกระทำได้หากเจ้าตัวต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้นายรัฐประทาน ประสานให้นายชิเกตะ เพื่อให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้ข้อมูลและตรวจเอกลักษณ์บุคคล

ด้าน พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการอุ้มบุญ แต่เป็นการผลิตเด็กเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน ว่า ทำไมถึงได้มีการผลิตเด็กอย่างมากมายเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น