“พงศพัศ” ผวาหลังเกิดกรณี “น้องโบว์” จับมือ ปส.เปิดหลักสูตรสืบสวน สะกดรอย หาข่าว ปิดล้อมตรวจค้นให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 8 สน. ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทำให้ประชาชนเสียหายอีก พร้อมเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดหลักสูตรสืบสวนสะกดรอย การออกหาข่าว และการปิดล้อมตรวจค้นให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจาก 8 สถานี คือ สน.ประเวศ, สน.บางชัน, สน.โชคชัย, สน.วังทองหลาง, สน.ลาดพร้าว, สน.หัวหมาก, สน.บึงกุ่ม, สน.อุดมสุข และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน รวม 65 นาย
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า หลักสูตรนี้จะมีการอบรม 5 วัน อาทิ องค์ความรู้การปฏิบัติงานเบื้องต้น การฝึกปฎิบัติการสะกดรอยบุคคล การสะกดรอยยานพาหนะ ฝึกปฎิบัติยุทธวิธีการตรวจค้นผู้ต้องสงสัย เพื่อให้สังคมและประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยครูฝึกที่มีความรู้และมีประสบการณ์เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่จะทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย
“ตัวอย่างกรณีที่เกิดกับ น.ส.อภีษฎา สัจพันโรจน์ หรือน้องโบว์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ทางเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก และกรณีรถของน้องโบว์ที่เสียหายนั้น ก็เป็นความตั้งใจของเราที่จะชดใช้รถให้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความทรงจำที่ไม่ดีกับรถคันดังกล่าว ซึ่งทางน้องต้องการรถรุ่นเดิมสีเดิม”
ด้าน พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า ยุทธวิธีของตำรวจท้องที่ และตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดนั้นมีความเหมือนกัน จะแตกต่างกันเพียงเวลาที่ใช้ในการทบทวน ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติดทำเพียงหน้าที่เดียวจึงมีเวลาในการฝึกทบทวนยุทธวิธี แต่ตำรวจท้องที่ต้องทำหลายหน้าที่จึงมีการฝึกทบทวนน้อยกว่า
ข่าวแจ้งว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สาธิตการฝึกสกัดจับผู้ต้องสงสัยให้สื่อมวลชนชมด้วย