กองปราบปรามติดตามจับกุมสาวแสบ หลอกจำนำรถผู้เสียหายแล้วเอาไปขายต่อ
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.1 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นางเกษรานันท์ หรือเกษ ดำเจริญศักดิ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/17 ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 248/2555 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน กง 3502 ยะลา และรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์ ไม่ติดป้ายทะเบียน จับกุมได้ที่ลานจอดรถตลาดนัดรามอินทรา ซอย 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้จำนำรถยนต์ไว้กับนางเกษรานันท์ แต่กลับถูกรถนำไปขายต่อโดยยังไม่ทันได้ไถ่รถคืน ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้กับตำรวจท้องที่ต่างๆ และเข้าร้องทุกข์ขอให้ตำรวจ บก.ป.ช่วยติดตามคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะว่าจ้างเว็บมาสเตอร์ หรือเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ เปิดเว็บไซต์รับจำนำรถยนต์ ที่อ้างว่าให้ราคาดี โดยเปิดเว็บไซต์ต่างๆ ไว้ถึง 14 เว็บ มีการประกาศโดยใช้ชื่อ “เกษ”, “นก” หรือ “ต่าย” พร้อมเบอร์โทรศัพท์มือถือสำหรับติดต่อกลับ นับตั้งแต่ปี 2550 ทำให้มีผู้หลงเชื่อนำรถมาจำนำนับร้อยคัน
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทางผู้ต้องหาจะนัดหมายเหยื่อให้นำรถมาส่งมอบ พร้อมกับเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อทำสัญญาไว้จึงจ่ายเงินให้ โดยราคารับจำนำจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่น และยี่ห้อ ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท เมื่อได้รถมาแล้ว ผู้ต้องหาก็จะนำไปขายต่อให้กับเครือข่ายที่มีการรับซื้อรถทันที เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจรับจำนำรถคันอื่นต่อไป จึงสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งทางตำรวจจะเร่งขยายผลไปยังขบวนการรับซื้อขายรถเหล่านี้เพราะเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และอาจเกี่ยวโยงกับกรณีการนำรถส่งขายยังต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่หลายขบวนการ
ด้านนางเกษรานันท์รับสารภาพว่าได้เปิดรับจำนำรถโดยทำร่วมกับมารดามานาน แต่ที่ผ่านมาก็มีการทำสัญญากับผู้ที่นำรถมาจำนำและให้ราคาตามท้องตลาด ข้อตกลงที่ทำไว้คือต้องนำเงินมาส่งดอกเบี้ย หรือคืนเงินต้นภายใน 7 วัน ยืนยันว่าเจ้าของสามารถไถ่รถคืนไปได้ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะผิดนัด ตนก็จำเป็นต้องนำไปจำนำต่อ เพราะต้องนำเงินมาหมุนเวียนในการทำธุรกิจนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะปล่อยรถไป
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว รับไว้ดำเนินคดีต่อไป