รอง ผบก.น.4 แถลงข่าวจับกุมสองผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด พร้อมขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายหลบหนีการประกันตัวต่อสู้คดีในชั้นศาลมีนบุรีได้อีก 1 ราย
วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ รอง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.สุวนัย พิทักษ์ สว.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.บก.น.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับและกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุด ปส.บก.น.4 สืบสวนทราบว่า นายสันติ แสนสุข อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้ร่วมค้ายาเสพติด และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 18/2557 ลงวันที่ 8 ม.ค. 2557 ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น จึงทำการสืบสวนและจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าเมกะบางนา
จากการสอบสวนนายสันติให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุจริงในท้องที่ สน.ลาดพร้าว และจากการสืบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.บก.น.4 ได้ทำการล่อซื้อยาเสพติด จากนายสถาพร หรือเพชร รักรอด อายุ 19 ปี โดยนัดส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณริมถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ช่วงสะพานกลับรถวัดลาดบัวขาว แขวงและเขตสะพานสูง เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายสถาพร หรือเพชรได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาส่งมอบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวทำการตรวจค้นจับกุม พบพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด ห่อด้วยกระดาษชำระพันด้วยเทปใสซุกซ่อนอยู่ในกล่องขนม
จากนั้นนายสถาพรนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นห้องพักในบ้านเช่าเลขที่ 99/1260 ซอยหมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง 44 แขวงและเขตสะพานสูง พบยาบ้าอีกจำนวน 19,000 เม็ด และอาวุธปืนซีแซด ขนาด 9 มม.สีดำ พร้อมกระสุนปืนจำนวน 9 นัด รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่นีโอ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
เบื้องต้นนายสถาพรให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวตนรับมาจากเครือข่ายยาเสพติด โดยได้ค่าจ้างมัดละ 2,500 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้ได้ค่าจ้าง 25,000 บาท นอกจากนี้ นายสถาพร หรือเพชร ยังให้การซักทอดไปยังนายสมพล หรือปุ้ย เอี่ยมสวัสดิ์ อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมนายสมพลมาสอบสวน จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสมพลเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรี คดีหมายเลขดำที่ ฝ.3963/2557 ในข้อหาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และหนีประกันในชั้นศาล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนของแต่ละท้องที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป