ทนายความพันธมิตรฯ นำผู้ชุมนุมปิดล้อมหน้าสำนักงาน ปตท.30 กว่าคน รายงานตัวต่อพนักงานอัยการ พร้อมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวคนละ 5 หมื่นบาท ด้านอัยการนัดสั่งคดี 14 ส.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ส.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ นำผู้ชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) จำนวน 35 คน เข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, บุกรุกสถานที่ราชการ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2557 นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล แกนนำ กคป.พร้อมผู้ชุมนุมและรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปในพื้นที่สำนักงานบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สาขาใหญ่ ถนนวิภาวดี-รังสิต แล้วปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
น.ส.พวงทิพย์กล่าวว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว จึงต้องนำตัวผู้ต้องหาที่เหลืออยู่อีกทั้งหมด 138 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กคป.มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ทั้งนี้การรายงานตัวจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยในวันนี้เป็นการนัดรายงานตัวกลุ่มแรกจำนวน 35 คน ส่วนกลุ่มที่ 2 และ 3 นัดเข้ารายงานตัววันที่ 5 และ 8 ส.ค.นี้ ประมาณกลุ่มละ 50 คน ส่วนนายแพทย์ระวี และแกนนำ กคป.คนอื่นๆ ทางอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังรายงานตัวต่อพนักงานอัยการแล้วก็จะขอประกันตัวตามหลักทรัพย์เดิมเป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท โดยอัยการจะนัดฟังการสั่งคดีวันที่ 14 ส.ค.2557 ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีหลังจากนี้ก็จะยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการชุมนุมปิดล้อมสำนักงานบริษัท ปตท.ของกลุ่ม กคป.เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อกฎหมาย พร้อมเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและพยานบุคคลเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
