“นายแพทย์ ระวี” แกนนำ กคป.กับพวก ขึ้นศาลให้การปฏิเสธคดีพาผู้ชุมนุม บุกรุก ปตท. ด้านนายบุญเชิด จำเลยที่ 5 เบี้ยวนัดศาล จึงให้ออกหมายจับ-ปรับนายประกัน และนัดตรวจหลักฐานอีกครั้ง 7 ก.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.831/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.), นายทศพล แก้วทิมา, นายทวีศิลป์ ประทีป, นายวรเดช เมฆไตรภพ, นายบุญเชิด จิตรีเชื้อ, นายนิพล ทรายเผื่อน, นายอโนทัย พุ่มแจ้ง และนายวิชาญ ภูวิหาร จำเลยที่ 1-8 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 216, 362 และ 365 และร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ม.4, 5, 6, 7, 9, 10 และ 18 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 57 นพ.ระวี แกนนำ กคป. กับพวก นำผู้ชุมนุม และรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ สำนักงานบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สาขาใหญ่ ถ.วิภาวดี-รังสิต โจมตีการทำงานของรัฐบาล
โดยวันนี้ นายบุญเชิด จิตรีเชื้อ จำเลยที่ 5 ไม่ได้มาศาลตามนัด มีเพียงนายประกันเท่านั้นที่เดินทางมาศาล ซึ่งได้แถลงต่อศาลว่า ก่อนจะถึงวันนัดได้ติดต่อกับจำเลยที่ 5 แล้วยืนยันว่าจะมาศาล แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงเวลานัดแล้วไม่มา โดยขณะนี้ติดต่อจำเลยไม่ได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 5 ทราบนัดแล้วไม่มาศาล พฤติการณ์จงใจหลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 5 เพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนพิจารณาต่อไป และเนื่องจากผิดสัญญาประกันจึงให้ปรับนายประกันเต็มจำนวน 100,000 บาท
ขณะที่ นพ.ระวี จำเลยที่ 1, นายทศพล แก้วทิมา จำเลยที่ 2, นายทวีศิลป์ ประทีป จำเลยที่ 3, นายวรเดช เมฆไตรภพ จำเลยที่ 4, นายนิพล ทรายเผื่อน จำเลยที่ 6, นายอโนทัย พุ่มแจ้ง จำเลยที่ 7 และนายวิชาญ ภูวิหาร จำเลยที่ 8 ศาลก็ได้อ่าน และอธิบายคำฟ้องให้ฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยที่ 1-4 และที่ 6 ยืนยันให้การปฏิเสธ ทำนองเดียวกันว่าได้ร่วมกันชุมนุมจริง และได้เข้าไปในพื้นที่สำนักงาน บมจ.ปตท. แต่ก็เป็นการชุมนุมโดยสงบ ตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ
ส่วนนายอโนทัย จำเลยที่ 7 และนายวิชาญ จำเลยที่ 8 ให้การปฏิเสธทำนองว่า ในวันเกิดเหตุไม่ได้ร่วมชุมนุม กคป. และไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ บมจ.ปตท. โดยนายอโนทัย จำเลยที่ 7 ไปที่เกิดเหตุเนื่องจากเข้าไปทำงาน
ด้านอัยการโจทก์ก็ได้แถลงบัญชีพยานเอกสารและพยานบุคคลที่จะนำสืบคดีนี้ต่อศาล ประกอบด้วย พยานเอกสาร 9 รายการ เช่น บันทึกการจับกุม แผนผังสถานที่เกิดเหตุ ส่วนพยานบุคคลเตรียมนำสืบรวม 16 ปาก เช่น ผู้รับมอบอำนาจ บมจ.ปตท. ในการแจ้งความดำเนินคดี หัวหน้า รปภ. กลุ่มพ่อ-แม่ค้าที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุม และพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในส่วนของจำเลยที่ 5 น่าจะยังติดตามตัวมาได้ จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค. นี้ เวลา 09.00 น. โดยกำชับให้นายประกันติดตามตัวมาศาลให้ได้