ตำรวจ สน.ห้วยขวาง เร่งสอบสวนคดีสาวลาวกระโดดตึกเสียชีวิต คุ้ยปมการเสียชีวิตหลังเมียหนุ่มใหญ่เชียร์แขกร้านทานทอง ตามสามีที่ควงผู้ตายมาพักถึงห้องพัก ตร. เร่งสืบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป หลังไม่พบพิรุธสองสามีภรรยา
จากกรณีที่ประชาคมออนไลน์ในนครเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว กำลังแชร์ภาพและข่าว น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี ตามชื่อหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นสาวลาวที่เสียชีวิตตกจากระเบียงอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตลาว และสถานกุงสุลลาว ประจำประเทศไทย กทม. อย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสียงเรียกร้องให้ทางการไทยสืบหาข้อเท็จจริง หลังจากเพื่อนผู้ตายเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงเข้าสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจาก ร.ต.ท.ศรุต คำละออ พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้ร่วมกับ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปชันสูตรศพ น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี สัญชาติลาว อาชีพสาวกลางคืน หลังตกจากระเบียงหลังห้อง เลขที่ 807 ชั้น 8 อาคารไนท์แมนชั่น 2 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ตายหลังตกลงมาค้างที่ตะแกรงกันสาดเหล็กของชั้น 1 ใช้สำหรับกั้นของหล่น ซึ่งอาสาสมัครมูลนิธิได้ช่วยเหลือลงมา เพื่อให้หน่วยกู้ชีพ รพ.ราชวิถี ช่วยเหลือ แต่สุดท้ายหญิงสาวดังกล่าวก็ได้เสียชีวิตลง
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวต่อว่า ผลจากแพทย์ผู้ตรวจระบุเบื้องต้นผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากกระดูกต้นคอ และกระดูกสันหลังหัก เพราะตกจากที่สูง ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตาตามร่างกายของผู้ตาย มีแผลถลอกที่แขนขวาและขาซ้าย ส่วนห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พฐ. ตรวจแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่พบคราบรอยเท้าปีนที่ปูนขอบระเบียงหลังห้อง และที่ราวเหล็กที่ปิดกั้นระเบียงพบลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของผู้ตายหรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียก นายอำนาจ บุญช่วย อายุ 42 ปี หนุ่มเชียร์แขกที่ทานทอง และ น.ส.ขจีฟ้า ลีประโคน อายุ 43 ปี กัปตันดูแลลูกค้าที่ทานทอง ซึ่งเป็นภรรยาของนายอำนาจ มาทำการสอบสวน หลังมีพยานยืนยันว่าทั้งคู่อยู่ในห้องที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายอำนาจ ให้การว่า ตนมีอาการเมาเหล้าหลังจากเลิกงานได้โทร. หา น.ส.ต่าย ซึ่งแอบคบหากันอยู่ โดยที่ภรรยาของตนไม่ทราบ โดยนัดให้มาพบที่ไนท์แมนชั่น 2 โดยเปิดลงทะเบียนเข้าพักที่ห้องหมายเลข 807 ชั้น 8 เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากพบกันแล้วตนได้เผลอนอนหลับบนโซฟา แต่ต้องตกใจตื่นเมื่อมีคนมาเคาะประตู้ห้องเสียงดังหลายครั้ง เมื่อตนไปมองที่ตาแมวพบว่า น.ส.ขจีฟ้า ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง จึงตกใจมาก ก่อนทำใจอยู่สักพักก่อนเปิดประตูห้องให้ น.ส.ขจีฟ้า เข้ามา ก่อนที่ น.ส.ขจีฟ้า จะเอะอะโวยวายใหญ่ ว่ามันอยู่ไหน พร้อมกับเดินหารอบห้อง ก็ไม่พบใคร พบเพียงรองเท้าผู้หญิงวางอยู่ข้างเตียง จึงเอารองเท้าผู้หญิงขว้างใส่ตน ตนจึงบอก น.ส.ขจีฟ้า ให้กลับไปคุยที่บ้าน โดย น.ส.ขจีฟ้า เดินออกจากห้องไปก่อน ต่อมาตนตามลงไปทันกันที่บริเวณชั้นล่าง จึงทะเลาะกับภรรยาของตนอีกครั้ง ก่อนที่ น.ส.ขจีฟ้า จะซ้อนรถ จยย. เด็กในร้านทานทองไปส่งที่พัก ส่วนตนเดินกลับไปที่ทานทองไปเอารถยนต์ขับกลับที่พัก เมื่อกลับถึงห้องเลขที่ 66 ชั้น 4 ทองประชาคอนโดมีเนียม ซ.ประชาอุทิศ 17 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นห้องพักที่นายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า พักอยู่ด้วยกัน กระทั่งประมาณเวลา 02.00 น. วันที่ 27 ก.ค. เพื่อนผู้ชายชื่อเล็กทำงานอยู่ที่เดียวกันโทร. มาบอกว่า น.ส.ต่าย กระโดดตึกตาย ตนจึงบอกเมียแล้วรีบมาดูที่เกิดเหตุ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบสวน โดยนายอำนาจยังบอกอีกว่า น.ส.ต่าย ปกติพักอยู่ที่ไนท์แมนชั้นที่เกิดเหตุห้องเลขที่ 816 ชั้น 8 ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามห้องเกิดเหตุอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุบังเอิญที่ตนมาเปิดห้องตรงข้ามพอดี
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวอีกว่า ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.ขจีฟ้า ให้การว่า หลังจากเลิกงานตนออกตามหานายอำนาจที่ไนท์แมนชั่น 2 เพราะรู้ว่า นายอำนาจ ชอบส่งแขกมานอนที่นี้ เมื่อมาถึงก็ขอดูสมุดลงชื่อแขกที่มาพัก พบว่าอยู่ห้อง 807 ชั้น 8 ก่อนเรียกให้ รปภ. ตามตนขึ้นไปด้วย เมื่อไปถึงก็เคาะห้อง แต่นายอำนาจไม่ยอมเปิดประตู จึงบอกให้ รปภ. ไปเอากุญแจสำรองมา ซึ่งก่อนที่ รปภ. จะเอากุญแจมาให้ นายอำนาจ ก็เปิดประตูออกมา ตนจึงเข้าไปในห้องหาผู้หญิง แต่ไม่พบ เจอแต่รองเท้าผู้หญิง จึงขว้างใส่นายอำนาจทะเลาะกัน จากนั้นก็ออกมาและมาทะเลาะกันข้างล่างอีก ก่อนจะกลับมาพบกันที่พัก
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวต่ออีกว่า ส่วนพยานซึ่งเป็นเพื่อนคนตายให้การว่า พวกตนรวมทั้ง น.ส.ต่าย อยู่ในห้อง 816 ชั้น 8 ของผู้ตาย น.ส.ต่าย มีอาการมึนเมาจากการดื่มเหล้า ระหว่างนั้นได้มีเสียงโทรศัพท์ให้ น.ส.ต่าย ออกไปหา ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงและผู้ชายทะเลาะกันเสียงดังที่ห้องฝั่งตรงข้าม แต่พวกตนก็ไม่สนใจ จนมาทราบเหตุอีกที่ว่ามีคนตกจากตึกเสียชีวิต จึงลงมาดูก็พบว่าเป็นเพื่อนของตนเอง โดยการสอบสวนทำคดีนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปสำนวน หลังเรียกนายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า มาทำการสอบสวน เพราะหลักฐานยังไปไม่ถึงว่าทั้งสองทำให้ น.ส.ต่าย เสียชีวิต ต้องรอผลการตรวจชันสูตรศพ และผลการตวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งรวบรวมพยานบุคคล ส่วนที่มีข่าวว่านายอำนาจให้เงินทำศพ น.ส.ต่าย ไป 3 หมื่นบาทนั้น อาจเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องการช่วยเหลือผู้ตาย ซึ่งถ้าทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที อีกอย่างทั้งนายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
จากกรณีที่ประชาคมออนไลน์ในนครเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว กำลังแชร์ภาพและข่าว น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี ตามชื่อหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นสาวลาวที่เสียชีวิตตกจากระเบียงอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตลาว และสถานกุงสุลลาว ประจำประเทศไทย กทม. อย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสียงเรียกร้องให้ทางการไทยสืบหาข้อเท็จจริง หลังจากเพื่อนผู้ตายเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงเข้าสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจาก ร.ต.ท.ศรุต คำละออ พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้ร่วมกับ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปชันสูตรศพ น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี สัญชาติลาว อาชีพสาวกลางคืน หลังตกจากระเบียงหลังห้อง เลขที่ 807 ชั้น 8 อาคารไนท์แมนชั่น 2 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ตายหลังตกลงมาค้างที่ตะแกรงกันสาดเหล็กของชั้น 1 ใช้สำหรับกั้นของหล่น ซึ่งอาสาสมัครมูลนิธิได้ช่วยเหลือลงมา เพื่อให้หน่วยกู้ชีพ รพ.ราชวิถี ช่วยเหลือ แต่สุดท้ายหญิงสาวดังกล่าวก็ได้เสียชีวิตลง
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวต่อว่า ผลจากแพทย์ผู้ตรวจระบุเบื้องต้นผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากกระดูกต้นคอ และกระดูกสันหลังหัก เพราะตกจากที่สูง ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตาตามร่างกายของผู้ตาย มีแผลถลอกที่แขนขวาและขาซ้าย ส่วนห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พฐ. ตรวจแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่พบคราบรอยเท้าปีนที่ปูนขอบระเบียงหลังห้อง และที่ราวเหล็กที่ปิดกั้นระเบียงพบลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของผู้ตายหรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียก นายอำนาจ บุญช่วย อายุ 42 ปี หนุ่มเชียร์แขกที่ทานทอง และ น.ส.ขจีฟ้า ลีประโคน อายุ 43 ปี กัปตันดูแลลูกค้าที่ทานทอง ซึ่งเป็นภรรยาของนายอำนาจ มาทำการสอบสวน หลังมีพยานยืนยันว่าทั้งคู่อยู่ในห้องที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายอำนาจ ให้การว่า ตนมีอาการเมาเหล้าหลังจากเลิกงานได้โทร. หา น.ส.ต่าย ซึ่งแอบคบหากันอยู่ โดยที่ภรรยาของตนไม่ทราบ โดยนัดให้มาพบที่ไนท์แมนชั่น 2 โดยเปิดลงทะเบียนเข้าพักที่ห้องหมายเลข 807 ชั้น 8 เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากพบกันแล้วตนได้เผลอนอนหลับบนโซฟา แต่ต้องตกใจตื่นเมื่อมีคนมาเคาะประตู้ห้องเสียงดังหลายครั้ง เมื่อตนไปมองที่ตาแมวพบว่า น.ส.ขจีฟ้า ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง จึงตกใจมาก ก่อนทำใจอยู่สักพักก่อนเปิดประตูห้องให้ น.ส.ขจีฟ้า เข้ามา ก่อนที่ น.ส.ขจีฟ้า จะเอะอะโวยวายใหญ่ ว่ามันอยู่ไหน พร้อมกับเดินหารอบห้อง ก็ไม่พบใคร พบเพียงรองเท้าผู้หญิงวางอยู่ข้างเตียง จึงเอารองเท้าผู้หญิงขว้างใส่ตน ตนจึงบอก น.ส.ขจีฟ้า ให้กลับไปคุยที่บ้าน โดย น.ส.ขจีฟ้า เดินออกจากห้องไปก่อน ต่อมาตนตามลงไปทันกันที่บริเวณชั้นล่าง จึงทะเลาะกับภรรยาของตนอีกครั้ง ก่อนที่ น.ส.ขจีฟ้า จะซ้อนรถ จยย. เด็กในร้านทานทองไปส่งที่พัก ส่วนตนเดินกลับไปที่ทานทองไปเอารถยนต์ขับกลับที่พัก เมื่อกลับถึงห้องเลขที่ 66 ชั้น 4 ทองประชาคอนโดมีเนียม ซ.ประชาอุทิศ 17 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นห้องพักที่นายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า พักอยู่ด้วยกัน กระทั่งประมาณเวลา 02.00 น. วันที่ 27 ก.ค. เพื่อนผู้ชายชื่อเล็กทำงานอยู่ที่เดียวกันโทร. มาบอกว่า น.ส.ต่าย กระโดดตึกตาย ตนจึงบอกเมียแล้วรีบมาดูที่เกิดเหตุ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบสวน โดยนายอำนาจยังบอกอีกว่า น.ส.ต่าย ปกติพักอยู่ที่ไนท์แมนชั้นที่เกิดเหตุห้องเลขที่ 816 ชั้น 8 ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามห้องเกิดเหตุอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุบังเอิญที่ตนมาเปิดห้องตรงข้ามพอดี
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวอีกว่า ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.ขจีฟ้า ให้การว่า หลังจากเลิกงานตนออกตามหานายอำนาจที่ไนท์แมนชั่น 2 เพราะรู้ว่า นายอำนาจ ชอบส่งแขกมานอนที่นี้ เมื่อมาถึงก็ขอดูสมุดลงชื่อแขกที่มาพัก พบว่าอยู่ห้อง 807 ชั้น 8 ก่อนเรียกให้ รปภ. ตามตนขึ้นไปด้วย เมื่อไปถึงก็เคาะห้อง แต่นายอำนาจไม่ยอมเปิดประตู จึงบอกให้ รปภ. ไปเอากุญแจสำรองมา ซึ่งก่อนที่ รปภ. จะเอากุญแจมาให้ นายอำนาจ ก็เปิดประตูออกมา ตนจึงเข้าไปในห้องหาผู้หญิง แต่ไม่พบ เจอแต่รองเท้าผู้หญิง จึงขว้างใส่นายอำนาจทะเลาะกัน จากนั้นก็ออกมาและมาทะเลาะกันข้างล่างอีก ก่อนจะกลับมาพบกันที่พัก
ร.ต.ท.ศรุต กล่าวต่ออีกว่า ส่วนพยานซึ่งเป็นเพื่อนคนตายให้การว่า พวกตนรวมทั้ง น.ส.ต่าย อยู่ในห้อง 816 ชั้น 8 ของผู้ตาย น.ส.ต่าย มีอาการมึนเมาจากการดื่มเหล้า ระหว่างนั้นได้มีเสียงโทรศัพท์ให้ น.ส.ต่าย ออกไปหา ต่อมาไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงและผู้ชายทะเลาะกันเสียงดังที่ห้องฝั่งตรงข้าม แต่พวกตนก็ไม่สนใจ จนมาทราบเหตุอีกที่ว่ามีคนตกจากตึกเสียชีวิต จึงลงมาดูก็พบว่าเป็นเพื่อนของตนเอง โดยการสอบสวนทำคดีนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปสำนวน หลังเรียกนายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า มาทำการสอบสวน เพราะหลักฐานยังไปไม่ถึงว่าทั้งสองทำให้ น.ส.ต่าย เสียชีวิต ต้องรอผลการตรวจชันสูตรศพ และผลการตวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งรวบรวมพยานบุคคล ส่วนที่มีข่าวว่านายอำนาจให้เงินทำศพ น.ส.ต่าย ไป 3 หมื่นบาทนั้น อาจเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องการช่วยเหลือผู้ตาย ซึ่งถ้าทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที อีกอย่างทั้งนายอำนาจ และ น.ส.ขจีฟ้า ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี