xs
xsm
sm
md
lg

ป.รวบแก๊งเรียกค่าไถ่"เฒ่า 70 "พ่อสาวแสบอดีตเสมียนโกงเงินบริษัท 30 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


กองปราบติดตามจับกุมแก๊งเรียกค่าไถ่ยกแก๊ง หลังก่อเหตุร่วมกันอุ้มเฒ่า 70 พ่อสาวแสบอดีตเสมียนบริษัทยักยอกเงินบริษัท 30 ล้าน จนบริษัทกำลังจะเจ๋ง หลานชายเจ้าของบริษัทผู้ถือหุ้นสุดแค้นทวงมถามถูกไล่ให้ไปฟ้องร้องเอา ชี้เรื่องอยู่าระหว่างฟ้องร้องกันในศาล จึงวางแผนแก้เผ็ดโดยจับพ่อของสาวขี้โกงเรียกค่าไถ่ สรุปไปไม่รอดโดยรวบยกแก๊ง



วันนี้ ( 17 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก.รักษาราชการแทน ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อภิรักษ์ วงษ์มณี รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.จักรภพ ศรีหนา สว.กก.2 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมแก๊งเรียกค่าไถ่ประกอบด้วย นายอนุชา หรือบังดุล ดีสะเมาะ อายุ 43 ปี นายผดุงเกียรติ หรือเค มงคลเจริญ อายุ 35 ปี นายสุวิทย์ หรือตุ๊ก สิงห์กัน อายุ 32 ปี นายธนู หรือโอ๋ ชูเชี่ยน อายุ 33 ปี น.ส.สุภา หรือบอล ปานนิล อายุ 26 ปี และ นายอรรลพ หรือบอย เจริญธรรม อายุ 36 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. เครื่องช็อตไฟฟ้า , โซ่ , กุญแจมือ รถยนต์ 2 คัน วิทยุสื่อสาร และทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหาย อาทิ รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทาดำ ทะเบียน 1 กฮ 6783 กรุงเทพมหานคร พระเครื่อง สร้อยคอ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป รวมทั้งสิ้น 47 รายการ รวมมูลค่านับล้านบาท โดยจับกุมทั้งหมดได้ในพื้นที่ จ.ระยอง

พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา น.ส.สุรีรัตน์ คำมีสัตย์ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ว่า นายประธาน คำมีสัตย์ อายุ 70 ปี บิดา อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ถูกคนร้ายลักพาตัวไปพร้อมรถกระบะ โดยมีการเรียกเงินค่าไถ่ จำนวน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพของบิดา ภายหลังได้รับแจ้งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.จึงประสานกับตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจ กก.สส.ภ.จ.ชลบุรี เร่งสืบสวนจนทราบว่า นายอนุชา ได้วางแผนก่อเหตุเนื่องจากโกรธแค้นที่ป้าถูกบุตรสาวของนายประธาน ฉ้อโกงทรัพย์สินไป จึงชักชวนกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งเป็นลูกน้อง ลงมือก่อเหตุอุ้มตัวเรียกค่าไถ่ โดยเฝ้าติดตามนายประธาน นับตั้งแต่เดินทางจากไซต์งานก่อสร้างที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวต่อว่า เมื่อสบโอกาสตอนที่ นายประธาน แวะรับประทานอาหาร และกำลังกลับขึ้นรถ ผู้ต้องหาก็ได้ใช้อาวุธปืนจี้ พร้อมกับอ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อนจะพานายประธาน ไปกักตัวไว้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ซึ่งระหว่างนั้นได้ข่มขู่ให้นายประธาน แจ้งกับครอบครัวให้มาเป็นค่าไถ่ นอกจากนี้นายอนุชา ยังข่มขู่ให้นายประธาน บอกกับบุตรสาวให้หาเงินมาเคลียร์หนี้สินที่ติดค้างอีก 30 ล้านบาท โดยเชื่อว่านายประธาน เอง ก็รู้เห็นกับกรณีการฉ้อโกงเงินที่เกิดขึ้น ซึ่งระหว่างที่มีการติดต่อและวางแผนโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของนายประธาน รวม 5 ครั้ง เป็นจำนวน 1.49 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาและช่วยเหลือผู้เสียหายไว้ได้โดยปลอดภัย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น กระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ โดยผู้นั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ , ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ กระทำทรมาน ใช้อาวุธปืนหรือใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือนำทรัพย์นั้นไป พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

“สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะกระทำการไปเพราะมีมูลเหตุจูงใจมาจากปัญหาที่ถูกฉ้อโกงเงิน โดยคดีอยู่ระหว่างฟ้องร้องกันอยู่ แต่การเลือกใช้วิธีการลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ นั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ปัญหาต่างๆ ควรแก้ตามครรลองของกฎหมาย” พล.ต.ต.นรบุญ กล่าว

ด้าน นายอนุชา ให้การว่า ตนเป็นหลานชายของเจ้าของบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด ซึ่งตนมีหุ้นส่วนในบริษัทแห่งนี้ด้วย เมื่อทราบว่าถูกบุตรสาวของนายประธาน ที่เคยทำงานเป็นเสมียนของบริษัท ยักยอกเงินไปกว่า 30 ล้านบาท จึงได้ติดตามทวงเงินจำนวนดังกล่าวมาโดยตลอด แต่กลับถูกปฏิเสธ และอ้างว่าถ้าอยากได้คืนให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ทำให้ตนรู้สึกเจ็บแค้น นอกจากนี้ทางบริษัทก็กำลังจะล้ม เพราะมีหนี้สิน ซึ่งตนต้องจำนองที่ดินรวมทั้งรีสอร์ทที่ลงทุนสร้างไป เพื่อนำเงินมาหมุนและประคองให้บริษัทอยู่รอด แต่หากภายใน 2 เดือนนี้ ไม่ได้เงินที่ถูกโกงไปมาใช้หนี้บริษัทก็คงต้องปิดตัวลง

นายอนุชา ให้การอีกว่า ที่ผ่านมาได้เคยพยายามติดต่อเจรจากับทางผู้เสียหายหลายครั้งเพื่อตกลงกันแต่ก็ไม่ได้ผล จริงแล้วตนไม่ได้ต้องการเงินค่าไถ่เพียง 5 แสนบาท เพราะมันไม่สามารถนำมาชำระหนี้สินที่มีอยู่ได้ แต่ที่ทำไปเพราะต้องการให้ฝ่ายผู้เสียหายรีบนำเงินที่โกงไปมาคืนให้เร็วที่สุด และตลอดเวลาที่พาตัวนายประธาน มานั้น ก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใดๆ พวกตนดูแลเรื่องที่พัก อาหารการกินอย่างดี ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ก็ไม่ได้แตะต้อง ยืนยันว่าที่ต้องเลือกทำเช่นนี้เพราะต้องการเงินคืนมา ไม่สามารถที่จะรอการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมได้ เนื่องจากคดีที่ฟ้องร้องกันขณะนี้ก็ยังอยู่ในชั้นสอบสวนเท่านั้น

ขณะที่ นายประธาน ผู้เสียหายที่ถูกอุ้มตัวรีดค่าไถ่ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่บุตรสาวไปยักยอกทรัพย์ หรือฉ้อโกงบริษัทดังกล่าว แต่ก็มารู้ภายหลังจากมีหมายศาล คดีที่เข้าฟ้องร้อง ซึ่งทางบุตรสาวก็ได้คืนเงินไปให้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด ส่วนช่วงที่ถูกลักพาตัว ก็ถูกผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นตำรวจ ทั้งถูกทำร้ายร่างกายด้วยการตีที่ศีรษะ ช็อตไฟฟ้า และใส่กุญแจมือ ล่ามโซ่ที่เท้า นอกจากนี้ยังถูกใช้ผ้าคาดตาไว้เพื่อไม่ให้รู้ว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน ตลอดเวลาที่ถูกกักตัว ทางผู้ต้องหายังบังคับให้ติดต่อบุตรสาวเพื่อหาเงินมาไถ่ตัว ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ซึ่งเร่งสืบสวนจับกุมคนร้าย ทำให้ตนได้รับอิสรภาพ

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวเสริมว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางทางชุดจับกุมได้นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดี โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับกรณีที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ก็จะเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุม เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาหลายราย มีประวัติพัวพันกับคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการติดตามทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหายกลับคืนมา





กำลังโหลดความคิดเห็น