xs
xsm
sm
md
lg

“พล.ต.อ.สมยศ” ถกรับมือผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“พล.ต.อ.สมยศ ” รอง ผบ.ตร. เรียกตำรวจนครบาลหารือ เพื่อรับมือม็อบต้านรัฐประหารพรุ่งนี้ พร้อมใช้มาตการให้ทหาร-ตำรวจประจำอยู่บนรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกขบวน รวมทั้งประสานขอภาพผู้ชุมนุมเพื่อตรวจสอบและออกหมายจับ

วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์, พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์, พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการ บช.น., พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียนทหารม้า ศูนย์กลางทหารม้า จ.สระบุรี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมประชุมกำหนดนโยบาย และวิธีการที่จะปฏิบัติต่อการชุมนุม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ เพื่อจะกำหนดวิธีการที่จะปฏิบัติต่อการชุมนุม โดยนำข้อมูลข่าวสารที่ทั้งสองฝ่ายมีมาแลกเปลี่ยนกัน คาดว่า อาจจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ จึงกำหนดจุดเฝ้าระวัง 5 จุด ประกอบด้วย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยามพารากอน, สนามบินสุวรรณภูมิ, ร้านแมคโดนัลด์ บริเวณศูนย์การค้าราชประสงค์ และวัดพระแก้ว ตลอดจนสถานที่อื่นๆ ในการใช้กำลังทางฝ่ายทหารจะเป็น ผบ. เหตุการณ์ หรือผู้กำหนดยุทธการในการปฏิบัติ ส่วนตำรวจจะขึ้นตรงกับทหาร ทั้งนี้ นโยบายของหัวหน้า คสช. ระบุว่า ให้ทหารและตำรวจปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมโดยให้ตำรวจเป็นแนวหน้า และให้ปฏิบัติโดยใช้กฎหมายอาญาจากเบาไปหาหนัก และหัวหน้า คสช. มองว่า ขณะนี้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะของการปรองดอง และต้องการให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม เพราะว่าการเผชิญหน้าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ให้คำนึงเสมอว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน ควรจะรักใคร่ ปรองดองกัน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการเดิมเป็นหลัก แต่จะมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมา คือ 1. จะมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจะประจำขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกขบวน ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีการชุมนุม 2. มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ประจำที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี จากการประเมินสถานการณ์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมมักจะเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าบีทีเอส ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมใช้เส้นทางต่างๆ เพื่อการชุมนุมแน่นอน นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ว่าขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ ทั้งบนรถไฟฟ้าและตามสถานีต่างๆ มาเปรียบเทียบกับภาพที่เจ้าหน้าที่บันทึกไว้ เพื่อออกหมายจับบุคคลในภาพต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกำหนดวิธีการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุม ใช้สถานที่ต่างๆ ชุมนุม เพราะหากปล่อยให้มีการชุมนุมจะมีผลกระทบต่อเนื่อง กับพี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจร และสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า การสูญเสีย นอกจากเป้าหมายที่อาจจะใช้เป็นสถานที่ชุมนุมแล้วดังกล่าว ก็ยังให้ความสำคัญกับศูนย์การค้าทุกแห่ง ที่อยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้าบีทีเอส และเฝ้าติดตามดูสถานการณ์ตลอดเวลา ในวันพรุ่งนี้จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 กองร้อย และ กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 27 กองร้อย จะใช้กำลังปฏิบัติการในพื้นที่เพียงบางส่วนเท่านั้น กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนจะแบ่งไว้เฝ้าระวังและเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วไประงับเหตุในจุดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นนอกพื้นที่เฝ้าระวัง นอกจากนี้ มีการตั้งด่านรอบบริเวณที่คาดว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ และหากมีการชุมนุมเกิดขึ้น ด่านจะเป็นผู้คัดกรองผู้ชุมนุมที่เดินทางกลับ ซึ่งจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ยืนยันว่าจะไม่ปิดการจราจรแบบที่ผ่านมา แต่จะใช้การตั้งด่านคัดกรอง และตรวจค้นเท่านั้น

พล.ต.อ.สมยศ รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่ออกมาแสดงสัญลักษณ์ทานแซนด์วิชกัน ที่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่สามารถห้ามได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีเจตนาอะไร หากไม่ได้กระทำการที่ขัดต่อกฎหมายอาญาปกติ หรือว่ากฎหมายพิเศษ จะไม่ดำเนินการอะไร แต่ถ้าหากกระทำการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นจะต้องดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ไม่เกิน 7 วัน ตามกฎหมายพิเศษว่า หลังจากนั้น ฝ่ายทหารจะส่งตัวให้กับตำรวจดำเนินการเกี่ยวกับคดีความผิดตามกฎหมายอาญา ทั้งเรื่องของการขัดคำสั่งไม่เข้ารายงานตัว ซึ่งเป็นข้อหาความผิดเหมือนกับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปแล้ว

นอกจากนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ยังจะมีการความผิดที่ได้ชักชวน ประชาชนให้ล่วงละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน ตามกฎหมายอาญามาตรา 116 อนุ 3 ที่ระบุว่า กระทำด้วยการใดๆ ให้ปรากฎแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นวาจา หรือวิธีการอื่นใด เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน จะมีโทษจำคุก 7 ปี รวมทั้งพิจารณาถึงผู้ที่ให้การพักพิง จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุก 2 ปี และ ปรับไม่เกิน 4,000 บาท











กำลังโหลดความคิดเห็น