ชาวบ้าน จ.พิจิตร ร้อง ป.ได้รับสารพิษจากเหมืองทองคำจนเป็นมะเร็ง

ชาวบ้านกว่า 10 คน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อกองปราบปราม เผยรับสารพิษจากเหมืองทองคำจนชาวบ้านได้รับสารหนูและสารแมงกานีส บางรายป่วยเป็นมะเร็ง

วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นางสื่อกัญญา ธีระชาติดำรง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 หมู่ 9 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร พร้อมชาวบ้านกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ได้สัมปทานทำเหมืองทองคำในพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร โดยมีชาวบ้านได้รับสารหนู สารแมงกานีส ฯลฯ จนเจ็บป่วยบางรายถึงขั้นเป็นโรคมะเร็ง โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมอบไว้เป็นหลักฐาน

นางสื่อกัญญากล่าวว่า เหมืองแร่แห่งนี้เริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2544 มีเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ โดยมีพื้นที่พักอาศัยของชาวบ้านหมู่ที่ 3, 4, 8 และ 9 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ ที่อาศัยอยู่โดยรอบหลายพันครัวเรือน ช่วงแรกที่บริษัทดังกล่าวได้รับสัมปทานจากรัฐเข้ามาขุดบ่อแร่ พวกตนและชาวบ้านต่างหวั่นเกรงเรื่องมลพิษที่อาจเกิดขึ้นจากการทำเหมือง และได้เคยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่งขอให้เข้ามาตรวจสอบ แม้จะมีการเข้าตรวจและแจ้งว่าไม่มีผลกระทบ แต่เรื่องที่ร้องเรียนไว้ก็เงียบหายไป กระทั่งเริ่มมีชาวบ้านเจ็บป่วยจนต้องไปรักษาตัวแล้วพบว่าได้รับสารโลหะหนัก เช่น สารหนู สารแมกกานีสซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็ง

นางสื่อกัญญากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านเริ่มเจ็บป่วยกันมาก สาเหตุน่าจะเกิดจากการรับสารพิษจากเหมืองแร่ดังกล่าว ตนจึงขอให้มีการตรวจสอบจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และก็ได้รับความอนุเคราะห์จากนักวิชาการมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเข้าช่วยเหลือ โดยพบว่าเป็นผลพวงของการเข้าไปสัมผัสกับสารที่เกิดขึ้นระหว่างการทำเหมือง นอกจากนี้เหมืองแร่ทองคำที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยังทำให้เกิดน้ำเสีย และสภาพแวดล้อมในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก

ด้านนายวุฒิพงษ์ ฟังเสนาะ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่อีกรายและอดีตพนักงานระเบิดเหมืองแร่แห่งนี้ซึ่งได้รับผลกระทบกล่าวว่า หลังจากทำงานที่เหมืองดังกล่าวได้ประมาณ 3 ปี ก็เริ่มมีอาการป่วย โดยมือเท้าอ่อนแรง แม้ว่าทางเหมืองจะให้พนักงานได้พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทุกปี แต่ตนก็รู้สึกได้ว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม และเมื่อไปตรวจรักษาที่ รพ.รามาธิบดี จึงพบว่าได้รับสารหนูในประมาณสูงที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและไม่สามารถรักษาได้ นอกจากนี้ทำให้รู้ว่าทางเหมืองปิดบังเรื่องผลตรวจสารโลหะหนักอีกด้วย

“ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตามร่างกายเริ่มมีผื่นขึ้น ซึ่งน่าจะเกิดจากผลกระทบที่ได้รับสารหนู จึงอยากขอความเป็นธรรมกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัทที่ได้รับสัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้ เพราะมีการปกปิดข้อมูลโดยแจ้งเพียงว่าตรวจสุขภาพทั่วไป ไม่ได้ตรวจหาสารโลหะหนักแต่อย่างใด นอกจากนี้คนในครอบครัวผมก็เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว” นายวุฒิพงษ์กล่าว

ส่วน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ ส่วนการดำเนินการนั้นคงจะต้องประสานหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และลงพื้นที่ตรวจสอบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย อย่างไรก็ตาม หากการดำเนินการของเหมืองแห่งนี้มีการกระทำความผิดก็น่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ รวมทั้งกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน