หนุ่มคองโกหึงโหด คว้ามีดแทงร่างแฟนสาวพรุน 15 แผล ดับคาที่ เหตุไม่พอใจแฟนเก่าส่งข้อความไลน์เข้าโทรศัพท์
เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (11 พ.ค.) ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ หะรังศรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า มีผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติฆ่าคนตาย ที่คอนโดฯ ฌ็องซาลิเซ่ย์ อาคาร J หมู่ 3 ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สราวุธ สวัสดิชัย ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.โสวัช ไชยสงคราม รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ร่วมตรวจสอบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา คือ นายซีซี มาดิลู บัสเชลี อายุ 34 ปี ชาวคองโก ซึ่งมีอาชีพซื้อเสื้อผ้า และรองเท้าแตะส่งไปขายที่ประเทศคองโก เดินทางเข้าชี้ที่เกิดเหตุที่อาคารดังกล่าว บริเวณชั้น 7 ห้องเลขที่ 314/709 ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อีลุงก้า มองก้า เจนี อายุ 26 ปี ชาวคองโก แฟนสาวของผู้ต้องหาเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ โดยสภาพศพเปลือยกายอยู่ในอ่างอาบน้ำ ตามลำตัวมีคราบเลือดแห้ง และมีบาดแผลจากของมีคมประมาณ 15 แผล ที่บริเวณคอ ไหปลาร้า แขน หน้าอก ท้อง สะโพก ขา และหลัง โดยแผลใหญ่ที่สุดอยู่ที่บริเวณท้อง ยาวประมาณ 10 ซม.ทำให้ลำไส้ของผู้ตายทะลักออกมาด้านนอก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.00 น. (10 พ.ค.) ผู้ต้องหาได้ทะเลาะกับแฟนสาวคือ ผู้ตายเรื่องที่แฟนเก่าของผู้ตายได้ส่งข้อความทางไลน์มาหาผู้ตาย ซึ่งผู้ตายเคยบอกว่าเลิกรากันไปแล้ว พอผู้ต้องหามาพบข้อความดังกล่าวในโทรศัพท์จึงได้มีการทำร้ายต่อสู้กัน ก่อนลงมือทำร้ายผู้ตายด้วยอาวุธมีด จากนั้นตนได้ออกจากห้อง และเดินทางไปพักที่ รร.สยาม ใน จ.ปทุมธานี โดยก่อนเข้าพักได้ซื้อยาจากร้านขายยาเพื่อนำไปกินหวังฆ่าตัวตาย และได้หลับไปหลายชั่วโมง เมื่อตื่นขึ้นมาเวลาประมาณ 23.30 น. จึงได้เดินทางไป สภ.ประตูน้ำจุฬา เพื่อเข้ามอบตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นห้องพัก พบอาวุธมีดซุกซ่อนอยู่ในถุงขยะสีดำโดยมีเสื้อผ้าปิดทับมีดอยู่ด้านบน จึงได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง รพ.ชลประทาน ปากเกร็ด เพื่อตรวจร่างกายเนื่องจากสภาพร่างกายยังมีอาการจากฤทธิ์ยาที่รับประทานเข้าไป หลังจากนี้ จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องเป็นชาวต่างชาติ และพูดภาษไทยไม่ได้ต้องใช้ล่ามเพื่อแปลภาษา