xs
xsm
sm
md
lg

ล่ามือแทงโชเฟอร์ตีนผีมินิบัสสาย 1 คลั่งชนรถชาวบ้านยับ พ่อแม่โวยลูกชายตกเป็นแพะ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
พ่อเลี้ยงและแม่คนขับรถมินิบัสสาย 1 ก่อเหตุชนวินาศสันตะโร ก่อนถูกชาวบ้านที่ถูกชนใช้มีดแทงจนเสียชีวิต ร้องตำรวจ เชื่อลูกชายตกเป็นแพะรับบาป เพราะขับรถไม่เป็น และพบรองเท้าลูกชายตกอยู่เบาะหลังคนขับ เชื่อนายอ้วน โชเฟอร์รถสาย 1 เก่า น่าจะเป็นคนขับแล้วโยนบาปให้ลูกชายตนเองรับกรรม ตร. เร่งแกะรอยภาพกล้องวงจรปิด และพยานในที่เกิดเหตุทั้งหมดก่อนจะติดตามคนลงมือก่อเหตุแทงโชเฟอร์จนเสียชีวิต

ความคืบหน้าจากกรณีรถมินิบัสสาย 1 เลขข้างรถ 1-14 วิ่งระหว่างถนนตก - ท่าเตียน หมายเลขทะเบียน 14-8230 กทม. ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถที่สัญจรผ่านไปมาบนถนนเจริญกรุง เสียหายหลายคัน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ขับขี่เป็นเยาวชนอายุเพียง 18 ปี หลังก่อเหตุดังกล่าว ผู้ขับขี่ถูกผู้ประสบเหตุและพลเมืองดีจับกุมตัวไว้ได้ และรุมประชาทันฑ์จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในขณะที่พ่อและญาติของผู้ตาย ไม่เชื่อว่าผู้ตายเป็นคนขับ จึงขอร้องให้ตำรวจเร่งหาคนผิด โดยหลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สน.ลุมพินี ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ธเนศ มีทอง สว.สส. สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว พบว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถมินิบัสคันดังกล่าวได้ที่บริเวณแยกราชประสงค์ ช่วงหน้าพระพรหมเอราวัณ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่รถคันดังกล่าวจอดสนิท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งให้การตรงกันว่า ช่วงเกิดเหตุชุลมุลมาก เนื่องจากประชาชนโกรธแค้นที่โชเฟอร์รถมินิบัสขับรถพุ่งชนรถตามทางได้รับความเสียหายหลายคัน

ด้าน นายอุทิศ มั่นสุข อายุ 42 ปี พร้อม น.ส.วาสนา เอี่ยมสวัสดิ์ อายุ 36 ปี พ่อเลี้ยงและแม่ของผู้ตายเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ นายอุทิศ จะกล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับลูกชายตนขับรถคันดังกล่าว ซึ่งลูกชายของตนนั้นขับรถไม่เป็น จากการสอบถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างให้การเป็นเสียงเดียวกันว่าในคืนเกิดเหตุในรถมินิบัสดังกล่าวมีอยู่กัน 3 คน ประกอบไปด้วย นายอ้วน อายุ 40 ปี นายเอ และลูกชายของตน ซึ่งตนเชื่อว่านายอ้วนน่าจะเป็นคนขับรถ เนื่องจากเคยเป็นคนขับรถ และกระเป๋ารถเมล์เก่าที่อู่สาย 1 เมื่อช่วงเช้าได้มีเพื่อนบ้านเห็นนายอ้วนเข้ามาในละแวกชุมชนด้วยท่าทีมีพิรุธ ก่อนที่นายอ้วนจะหลบหนีไป ทั้งนี้ ตนได้ขึ้นไปบนรถมินิบัสคันดังกล่าว ก็พบรองเท้าแตะของลูกตนอยู่ด้านหลังเบาะคนขับ ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าลูกตนไม่น่าเป็นคนขับ เพราะโดยปกติถ้าเป็นคนขับจริงรองเท้าต้องอยู่ที่ด้านหน้าไม่ใช่เบาะหลัง

พ.ต.ท.ธเนศ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ ส.อ.รณขัย มีสัตย์ สังกัด ม.พัน 29 รอ.พล ร2 รอ. (สนามเป้า ) ซึ่งเป็นทหารเวรรักษาการณ์อยู่ที่ด่านความมั่นคง บริเวณแยกชิดลม ในคืนเกิดเหตุให้การว่า วันเกิดเหตุรถมินิบัสคันดังกล่าวได้ก่อเหตุพุ่งชนรถหลายคัน ก่อนที่จะมาประสานงากับรถจักรยานยนต์บริเวณก่อนแยกชิดลม ส่งผลให้ผู้ที่โดยสารมาบนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว กระเด็นตกรถ บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนรถมินิบัสคันดังกล่าวจะลากรถจักรยานยนต์ไปหยุดที่บริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ ซึ่งระหว่างที่รถมินิบัสขับมานั้น ได้มีรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ไม่ทราบรุ่น ขับมาจอด ก่อนที่คนในรถและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงจะวิ่งกรูเข้าจับคนขับรถมินิบัส โดยชายสวมเสื้อสีแดงไว้ผมทรงโมฮอว์กตะโกนว่า “มึงชนพวกกู” และใช้อาวุธมีดแทงนายสิริศักดิ์ก่อนหลบหนีไป เชื่อว่ารถกระบะคันดังกล่าวน่าจะขับตามรถมินิบัส และเกิดพลัดหลง เนื่องจากระหว่างที่รถกระบะผ่านด่านได้จอดถามทหารที่ด่านว่า “รถมินิบัสคันที่ก่อเหตุมุ่งหน้าไปทางไหน”

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ตั้งแต่บริเวณแยกเพลินจิต แยกชิดลม ยาวมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกราชประสงค์ ทั้ง 3 จุด เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมตามคำให้การของทหารที่ประจำด่านความมั่นคงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามหาเบาะแสคนร้ายลงมือก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป
(แฟ้มภาพ)
(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น