อดีตกระเป๋ารถเมล์ เมาได้ที่ขโมยรถมินิบัสสาย 1 ซิ่งเฉี่ยวชนรถชาวบ้านตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ย่านเจริญกรุง จนเจอด่านตรวจราชประสงค์ จึงทิ้งรถหนี จนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์เสียชีวิตที่ รพ. ขณะรถยนต์-จยย.ชาวบ้านเสียหายกว่า 10 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 02.45 น. ร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ นนทะโชติ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งมีเหตุรถมินิบัสเฉี่ยวชนรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณทางเท้าพังเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถมินิบัสสาย 1 เลขข้างรถ 1-14 วิ่งระหว่างถนนตก - ท่าเตียน หมายเลขทะเบียน 14-8230 กทม. จอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ มุ่งหน้าแยกราชดำริ สภาพรถด้านหน้าเสียหายพังยับเยิน กระจกด้านหน้าและด้านหลังแตกเสียหาย ตรวจสอบภายในรถพบเศษกระจกหล่นกระจัดกระจาย ใกล้กับที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบคนขับรถมินิบัสคันดังกล่าวอยู่ในสภาพสะบักสะบอม เนื่องจากถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรีบนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ
สอบสวน นายสมศรี ตลอดพงษ์ อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มช 3620 กทม. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ให้การว่า ระหว่างที่ตนขับรถมาตามเส้นทางปกติ ช่วงบริเวณหน้าโรบินสัน บางรัก พบรถมินิบัสคันเกิดเหตุขับส่ายไปมา ก่อนที่รถมินิบัสคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนรถของตนจนได้รับความเสียหาย จากนั้นคนขับได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เส้นทางถนนเจริญกรุง ซึ่งตนได้พยายามขับรถติดตาม โดยระหว่างทางรถเมล์คันดังกล่าวได้ขับเฉี่ยวชนรถยนต์คันอื่นมาตลอดทาง จนมีคนได้รับบาดเจ็บหลายราย และได้มีการแจ้งให้ตำรวจช่วยสกัดจับ กระทั่งรถเมล์คันดังกล่าวได้วนรถกลับที่บริเวณก่อนแยกชิดลม ก็ได้ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ที่หน้าด่านตรวจแยกราชประสงค์ จนรถจักรยานยนต์ติดอยู่ท้องรถของรถเมล์คันดังกล่าว ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ได้กระเด็นตกข้างทางบาดเจ็บศีรษะแตก จนในที่สุดตำรวจสามารถสกัดจับรถมินิบัสคันดังกล่าวไว้ได้ ที่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งหลังก่อเหตุคนขับรถอาศัยจังหวะชุลมุนพยายามหลบหนี แต่ก็ถูกชาวบ้านในละแวกดังกล่าวจับตัวไว้ได้ ก่อนที่จะถูกรุมประชาทัณฑ์ และถูกของมีคมแทงเข้าที่ลำตัวหลายแผล และกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถช่วยกันตัวคนขับรถมินิบัสคันดังกล่าวออกมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้นำตัวมอบให้เจ้าหน้าที่อาสาฯ นำส่ง รพ.ตำรวจ ทราบชื่อต่อมา คือ นายศิริศักดิ์ แสงศรี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/14 ซ.ประชาสันติ แขวงและเขตดินแดง กทม.
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับรายงานจากฝ่ายสืบสวนว่า นายศิริศักดิ์ ได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากอวัยวะสำคัญถูกทำลายหลังถูกแทง 7 แผล อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า นายศิริศักดิ์ ได้ขโมยรถมินิบัสมาจากบริษัท มิตรขนส่งมวลชน จำกัด เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 เม.ย. โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าของรถได้เข้าแจ้งความรถหายไว้ที่ สน.วัดพระยาไกร โดยนายศิริศักดิ์ เคยเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารมาก่อน แต่ยังไม่ทราบจุดประสงค์ของการขโมยรถในครั้งนี้
ต่อมา พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและสอบสวน เพื่อคลี่คลายคดี เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานไว้สองประเด็น คือ ผู้ตายอาจจะขโมยรถมาก่อนที่จะตระเวนขับรถไปตามที่ต่างๆ และเกิดขับรถไปชนชาวบ้านหรือกลุ่มเด็กแว้น จนเกิดความเสียหาย และสร้างความไม่พอใจ ขับขี่รถไล่มา ก่อนที่จะถูกนรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต และอีกประเด็นผู้ตายอาจจะมีเรื่องกับวัยรุ่นในละแวกอู่รถ ก่อนที่จะตัดสินใจขโมยรถเพื่อขับหลบหนี ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนเร่งลงพื้นที่ตรวจหากล้องวงจรปิดแล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบรถแท็กซี่ได้รับความเสียหายรวม 4 คัน รถขายผลไม้ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ในพื้นที่ลุมพินี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ขณะที่ท้องที่ สน.ยานนาวา และ สน.วัดพระยาไกร รวมอีกประมาณ 5 คันโดยหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบเส้นทางและใครเป็นผู้ก่อเหตุแทงนายศิริศักดิ์จนเสียชีวิต อีกทั้งมีผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือไม่
ด้าน นายบุญธรรม ไกรสุวรรณ อายุ 59 ปี เจ้าของรถมินิบัส กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้จอดรถมินิบัสไว้ที่บริเวณหน้าอู่รถ ภายใน ซ.เจริญกรุง 111 พร้อมกับเสียบกุญแจคารถไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะจอดขวางทางรถคันอื่น โดยปกติแล้วจะจอดไว้ในอู่ดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าได้ทราบว่ารถคันดังกล่าวได้หายไป จึงไปแจ้งความที่ สน.วัดพระยาไกร ซึ่งได้รับแจ้งจากตำรวจว่ารถของตนไปก่อเหตุ จึงได้เดินทางมาให้ปากคำที่ สน.ลุมพินี เบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ขโมยรถนั้นเป็นอดีตกระเป๋ารถเมล์สายดังกล่าว ซึ่งพักอาศัยอยู่ด้านหลัง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ในเรื่องของคดีความคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ส่วนเรื่องค่าเสียหายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาท เพราะตัวรถได้รับความเสียหายทั้งคัน
เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา น.ส.วาสนา เอี่ยมสวัสดิ์ อายุ 36 ปี กับนายอุทิศ มั่นสุข อายุ 42 ปี แม่กับพ่อเลี้ยงของนายสิริศักดิ์ พร้อมด้วยญาติและเพื่อนผู้ตายกว่า 10 คน เดินทางมารับศพนายสิริศักดิ์ ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอินทร์บรรจง ย่านพระราม 3 โดยแพทย์ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากบาดแผลฉีกขาดทะลุปอดเสียโลหิตปริมาณมาก โดยมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่สีข้างขวา 1 แผล และแผ่นหลังด้านซ้ายอีก 2 แผล
น.ส.วาสนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนทำอาชีพเป็นกระเป๋ารถมินิบัสประจำทางสาย1ส่วนนายอุทิศสามีนั้นเป็นคนขับรถมินิบัสสายเดียวกันโดยพวกตนจะออกไปทำงานคู่กันตลอด ส่วนลูกชายนั้นหลังจากเรียนจบป.6ก็ไม่ได้เรียนต่อ จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ลูกชายก็เริ่มมาเป็นกระเป๋ารถเมล์สาย 1 แต่ไม่ได้ทำประจำแล้วแต่เจ้าของรถจะเรียกใช้วันที่คนขาด โดยวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเพิ่งให้ลูกชายขึ้นไปเป็นกระเป๋าคู่นายอุทิศเป็นวันแรก หลังเลิกงานก็กลับบ้านมากินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็เข้านอนตอนประมาณเที่ยงคืนโดยไม่ทราบว่าลูกชายออกจากบ้านไปตอนไหน แล้วเอารถคันดังกล่าวไปได้อย่างไรเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกหัดขับรถ แต่นายอุทิศสามีตนบอกว่า มีคนแถวอู่เห็นลูกชายขึ้นรถไปกับเพื่อนอีก 2 คนแต่ไม่ทราบว่าเป็นใครจนกระทั่งช่วงเช้ารพ.ตำรวจโทรมาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว