เทรลเลอร์เกี่ยวสายไฟ เสาล้มทับรถชาวบ้านพัง

เกิดอุบัติเหตุรถเทรลเลอร์เกี่ยวสายไฟ-เสาล้ม 4 ต้นทับรถชาวบ้าน เหตุเกิดบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ตรวจที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์ 10 ล้อมีตราสัญลักษณ์ กทม. จอดอยู่ และมีเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มระเนระนาด โดยมีรถชาวบ้านได้รับความเสียหายนับ 10 คัน จนท. ต้องเร่งตัดกระแสไฟฟ้าและเคลียร์พื้นที่ ส่งผลให้การจราจรติดขัดนานหลายชั่วโมง โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต

วันนี้ (24 เม.ย.) ร.ต.ท.ธงชัย สว่างจิตร พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้รับแจ้งมีเหตุรถเกี่ยวสายไฟฟ้าทำให้เสาไฟล้มหลายต้น ที่บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ช่วงระหว่างปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 11 ถึงปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 8/2 แขงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โดยเหตุดังกล่าวทำให้รถประชาชนที่วิ่งอยู่บนถนนเสียหายจำนวนหลายคัน จึงเร่งประสานการไฟฟ้านครหลวงแล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นช่วงระหว่างปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 11 ถึงปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 8/2 ภายในซอยสุขาภิบาล 5 แยก 8/2 และพบรถแท็กซี่นิสสัน รุ่นทีด้า สีเขียว ทะเบียน ทร 8856 กทม. ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ หลังคายุบ กระจกหน้ารถแตก ด้านข้างตัวรถฝั่งซ้ายมีร่องรอยไหม้จากสะเก็ดไฟฟ้าช็อต ห่างไปอีกใกล้กับซอยสุขาภิบาล 5 แยก 11 เสาไฟฟ้าทับรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ชย 593 กทม. ได้รับความเสียหายกระบะฝั่งซ้ายยุบ ใกล้กันพบรถบรรทุกมิตซูบิชิ เป็นรถเทรลเลอร์ 10 ล้อ สีเหลืองเข้ม สภาพใหม่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บรรทุกรถเครื่องจักรกล เจซีบี ซึ่งเป็นทั้งรถตักและขุดในคันเดียวกัน มีตราสัญลักษณ์ กทม. จอดอยู่ ใกล้กันนั้นพบเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร ล้มจำนวน 3 ต้น ยังมีเสาไฟฟ้าขนาดเล็ก สูงประมาณ 7 เมตร หักล้มลงมาทับซากรถเก่าที่จอดอยู่ในซอยข้างอู่ซ่อมรถเสียหาย นอกจากนี้ยังมีรถของประชาชนที่จอดริมฟุตปาทและวิ่งบนถนนช่วงบริเวณที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายเล็กน้อยอีกเกือบ 10 คัน

จากการสอบสวน นายชาติชาย แย้มผกา อายุ 40 ปี พนักงานขับรถสำนักงานเขตหนองแขม กล่าวว่า ตนมารับรถเทรลเลอร์พร้อมกับบรรทุกรถเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นของ กทม. ที่ซื้อไว้ ที่โรงขยะสายไหม ก่อนจะขับรถดังกล่าวไปประจำที่เขตหนองแขม โดยใช้เส้นทางผ่าน ถ.สุขาภิบาล 5 ก็ขับมาตามปกติ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุยังไม่ทราบว่ารถเครื่องจักรกลไปเกี่ยวสายไฟที่พาดผ่านถนน เนื่องจากเส้นทางที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาผ่านมาได้แต่โดยดี กระทั่งเห็นเสาไฟฟ้าล้มข้างหน้าจึงหยุดรถ พอลงมาดูก็พบว่ารถเครื่องจักรกลที่บรรทุกมาไปเกี่ยวสายไฟที่พาดผ่านข้ามถนน จนรั้งเสาไฟฟ้าล้มลงหลายต้น อาจเป็นเพราะสายไฟช่วงที่เกิดเหตุหย่อนลงต่ำผิดปกติ เนื่องจากได้วัดความสูงจากพื้นไปถึงยอดเครื่องจักรกลที่บรรทุกมาได้ความสูง 4.80 เมตร ไม่น่าจะเกินที่กฎหมายกำหนด และก็มีรถลักษณะเดียวกันนี้จำนวน 29 คัน แล้วก็มีแต่ละเขตมารับรถและขับผ่านไปหลายคันแล้ว

ด้าน นายณรงค์ อินทวงศ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/8 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่คันที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ เล่านาทีเฉียดตายว่า รถแท็กซี่คันนี้เป็นของตนเอง ก่อนมาประสบเหตุตนขับรถแท็กซี่ไปส่งผู้โดยสารที่ตลาดพงศกร จากนั้นจะมุ่งหน้าออกไป ถ.รามอินทรา โดยใช้ ถ.สุขาภิบาล 5 ระหว่างขับมาถึงจุดเกิดเหตุสังเกตเห็นสายไฟฟ้าลดต่ำลงเรื่อยๆ จึงชะลอรถ จากนั้นก็มีเสียงกระแทกดังโครมอย่างแรง กระจกหน้ารถแตกกระเด็นเฉียดหน้า ได้ยินเสียงไฟช็อตและมีประกายไฟเป็นระยะ จังหวะนั้นตนตกใจมาก เพราะเสาไฟที่ล้มลงมาทับมีหม้อแปลงไฟฟ้าแล้วเกิดประกายไฟ ตนกลัวรถระเบิดเพราะรถติดแก๊ส จึงรีบออกจากรถ เสาไฟที่ล้มลงมาทับเฉียดหัวตนไปนิดเดียว ถ้าเกิดตนวิ่งมาเร็วกว่านี้นิดนึงคงโดยหัวตนเต็มๆ ถือว่าตนรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่พอหายตกใจผมรู้สึกเจ็บปวดที่แผ่นหลัง เดินและขยับตัวลำบาก อาจเป็นเพราะแรงกระแทกที่เกิดขึ้น และตนจะต้องนั่งแท็กซี่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อตรวจเช็กร่างกายให้แน่ชัด ก่อนไปพบตำรวจเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อไป

ด้าน ร.ต.ท.ธงชัย กล่าวว่าเบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหากับนายชาติชายคนขับรถ กทม. แต่จะทำการเชิญตัวไปสอบสวน และลงบันทึกยืนยันว่าเป็นคนขับรถคันที่ก่อเหตุเกี่ยวสายไฟฟ้าจนเป็นเหตุให้เสาไฟล้มหลายต้น รถยนต์ประชาชนได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าว หากพบว่ากระทำการโดยประมาทจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นและของราชการได้รับความเสียหาย ซึ่งจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ผู้เสียหายดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อไป เหตุดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่จำนวนมาก เพราะเจ้าหน้าที่ต้องกระแสไฟฟ้า ก่อนดำเนินการเคลียร์พื้นที่ และตั้งเสาไฟฟ้าใหม่ ก่อนจะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ใช้ได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการหลายชั่วโมง ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้การจราจรติดขัด เพราะต้องเป็นถนนให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าดำเนินการเก็บกู้และตั้งเสาไฟฟ้าใหม่ได้สะดวก