ม็อบต้านระบอบทักษิณ ประมาณ 800 คน นำโดย “อิสสระ” บุก ศธ.ปราศรัยโจมตีนโยบายการศึกษาของรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการ ศธ.หยุดทำงานรับใช้รัฐบาล และมอบนกหวีดและน้ำให้กับข้าราชการ และ ตร.ที่มาปฏิบัติหน้าที่ด้วย ขณะที่ ศธ.หัวหดขอกำลัง ตร.เอารถขนผู้ต้องขังขวางด้านในทั้งประตูเข้า-ออกคุรุสภา และกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 500 นายตรึงกำลัง พร้อมส่ง หน.ศูนย์เสมารักษ์ รับดอกไม้และธงชาติจากกลุ่มผู้ชุมนุม ด้าน ปลัด ศธ.ย้ำ “จาตุรนต์” สั่งไม่มีนโยบายให้ ขรก.หยุดงาน หรืออาศัยเหตุการณ์เป็นข้ออ้างหยุดงาน แต่ให้อาศัยวิกฤตเร่งทำงาน พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติงานชั่วคราวในจุดต่างๆ เพื่อบริการประชาชนที่จะมาติดต่อ
วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ ประมาณ 800 คน นำโดย นายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคลื่อนขบวนจากเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มายังกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) โดยใช้เส้นทางถนนวิสุทธิกษัตริย์ ข้ามคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณประตู 5 ด้านกระทรวง ซึ่งเป็นทางเข้าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและหอประชุมคุรุสภา โดยตลอดเส้นทางการเดินกลุ่มผู้ชุมนุมได้เป่านกหวีด พร้อมโบกธงชาติ
ขณะที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และหอประชุมคุรุสภา นั้น ศธ.ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถขนผู้ต้องหา 2 คัน มาปิดประตูทางเข้าและทางออก พร้อมกันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 500 นาย ตั้งแถวตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่ภายใน โดยทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมมาถึงได้จอดรถกระจายเสียงตรงถนนหน้าประตูทางเข้าคุรุสภา โดย นายอิสสระ ได้ปราศรัยโจมตีนโยบายการศึกษาของรัฐบาล ทั้งการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก การให้จัดโครงการให้ครูไปปฏิบัติที่วัดพระธรรมกาย เป็นต้น ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมฟังปราศรัยบริเวณริมฟุตปาต 2 ข้างทาง พร้อมกันนี้ มีการนำริบบิ้นธงชาติมาผูกที่ประตูทางเข้าเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ทั้งนี้ระหว่างการชุมนุมเส้นทางการจราจรบริเวณด้านหน้าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ไปจนถึงแยกวังแดง ยังคงเดินรถได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นเวลาประมาณ 11.30 น.นายอุดม บุตตะ หัวหน้าศูนย์เสมารักษ์ ได้รับมอบหมายจาก นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ รองปลัด ศธ.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในระหว่างการชุมนุมให้นำน้ำไปแจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุม และเป็นตัวแทนรับมอบดอกไม้ ธงชาติ และนกหวีดจากนายอิสสระ แกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการปะทะและเหตุการณ์รุนแรง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้นำน้ำและนกหวีด ไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้าราชการ ศธ.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใน และสลายชุมนุมเวลาประมาณ 12.30 น.
นายอุดม กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องขอให้ข้าราชการ ศธ.อย่าทำงานรับใช้รัฐบาลชุดนี้ และร่วมมือกันปฏิรูปประเทศไทย โดยตนได้นำน้ำมามอบให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากเห็นคนไทยรักและสามัคคีกัน ซึ่งการชุมนุมเป็นไปอย่างสันติไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง
วันเดียวกันในช่วงเช้าเวลา 11.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการทำงานของข้าราชการใน ศธ.ในช่วงวิกฤตที่มีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ได้ย้ำว่าขณะนี้เป็นช่วงที่ ศธ.กำลังจะขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายต่างๆ ดังนั้น ไม่อยากให้ใช้วิกฤตตรงนี้มาเป็นข้ออ้าง ทำให้งานต่างๆ หยุดชะงัก แต่อยากให้ใช้เป็นโอกาสดำเนินการขับเคลื่อนในเชิงนโยบายให้เกิดความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายจาตุรนต์ ได้เน้นย้ำด้วยว่า ศธ.ไม่มีนโยบายให้ข้าราชการหยุดงาน หรือใช้เวลางานไปร่วมชุมนุม ซึ่งหากข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่ไม่สามารถเดินเข้าทำงานที่ ศธ.ได้ก็ขอให้ไปทำงานตามศูนย์ปฏิบัติการชั่วคราวในจุดต่างๆ เพื่อให้ความสะดวกในการบริการประชาชน ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และสำนักปลัด ศธ.จะมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่โรงเรียนหอวัง ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อรับบริการได้ที่ โทร.02-930-2837, 02-512-6000 ต่อ 516 ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะไปปฏิบัติงานที่สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา ถ.รามอินทรา โทร.02-943-6767, 02-509-5645-6, 02-509-5643, 02-509-3655 หรือสายด่วน 1156 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ไปปฏิบัติงานที่โรงเรียนโยนออฟอาร์ค เทคโนโลยี เชิงสะพานกรุงธน โทร.02-282-6831 สายด่วน 1693 โดยจะมีหน่วยรับบริการของประชาชนตามปกติ เช่น การขอเทียบวุฒิการศึกษา การเบิกค่ารักษาพยาบาล การชำระเงินกู้ เป็นต้น แต่หากไม่มีงานเร่งด่วนก็ขอให้ข้าราชการไปทำงานยังสถานที่ที่ ศธ.จัดไว้ให้ หรือทำงานทางระบบออนไลน์ อยู่ที่บ้านก็สามารถทำงานได้
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยภายใน ศธ.นั้นได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ประมาณ 500 นาย มาดูแลรักษาความปลอดภัย ขณะที่เดิม ศธ.เองก็เปิดอาคารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพักอยู่แล้ว ดังนั้นขณะนี้จึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยภายใน ศธ.ไม่น้อยกว่า 1,200 นาย และยังตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มีปลัด ศธ.เป็นประธาน ทำหน้าที่เฝ้าระวังส่วนราชการ อาคารสถานที่ และบริเวณโดยรอบ ศธ.มีการแบ่งหน้าที่การทำงานของแต่ละองค์กรหลัก ศธ.และให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังสภาวะวิกฤต อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยจะมีผู้บริหารระดับรองปลัด รองเลขาธิการ เฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
