ผบ.ตร.ฮึ่ม! เร่งออกหมายจับ “โกตี๋”

ผบ.ตร.ฮึ่ม! เร่งออกหมายจับ “โกตี๋” ประสานตำรวจสากลช่วยล่า “ตั้ง อาชีวะ” และผู้ต้องหา ม.112 ด้านกองปราบฯ เร่งนำหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาแล้ว เชื่อยังอยู่ในประเทศไทย

วันนี้ (11 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.หญิง วิชย์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีต่อนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ว่าวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามรวบพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับให้ได้ภายในวันนี้ ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน เฝ้าระวังเกรงนายวุฒิพงศ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ จากการสืบสวนพบว่าขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ภายในประเทศ

รองโฆษก ตร.กล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร.สั่งการกองการต่างประเทศให้ประสานหน่วยอาชญากรรมข้ามชาติ ตำรวจสากล ให้ตรวจสอบและประสานประเทศต่างๆตามจับกุมผู้ต้องหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หลบหนีอออกนอกประเทศทุกรายมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยให้ดำนินการตามกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เบื้องต้น มีนายตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา และรายอื่นๆ ด้วย กรณีนายวุฒิพงศ์หากศาลอนุมัติหมายจับก็จะดำเนินการส่งหมายจับให้ตำรวจสากลเช่นกันเพื่อให้ช่วยจับกุมในกรณีที่หลบหนีออกนอกประเทศ

เวลา 10.30 น.วันเดียวกันกัน ห้องประชุมกองปราบปราม พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เรียกประชุมคณะสืบสวนสอบสวนคดีที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำ นปช.จังหวัดปทุมธานี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง พล.ต.ต.นรบุญเปิดเผยว่า วันนี้คณะทำงานจะนำพยานหลักฐาน ประกอบด้วยคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่อยู่ไปให้ศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับในช่วงเที่ยงวันนี้

เบื้องต้นจากการตรวจสอบคลิปวิดีโอพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นายวุฒิพงศ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวชาวสวีเดน ที่เวทีการชุมนุมอนุสรณ์สถาน เมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีความยาว 29 นาที และพบถ้อยคำสัมภาษณ์ของนายวุฒิพงศ์เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 หมิ่นเบื้องสูง เป็นเวลายาวประมาณ 1 นาที

ทั้งนี้ คณะทำงานฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวว่ามีการเผยแพร่ในประเทศไทย หรือต่างประเทศ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือนแล้วจึงจะมีการมาเผยแพร่ และผู้ที่เผยแพร่จะมีความผิดร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังอยู่ระหว่างการติดต่อผู้สื่อข่าวชาวสวีเดนที่มาสัมภาษณ์นายวุฒิพงศ์เพื่อขอข้อมูลมาประกอบการสอบสวน พร้อมยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจในการเร่งสืบสวนสอบสวน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานมาว่า 30 นาย มาร่วมสืบสวน

นอกจากนั้นยังไม่ได้รับการติดต่อประสานงานจากนายวุฒิพงศ์ในการเข้าให้ข้อมูลต่อตำรวจ และยังไม่พบข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศ และขอความร่วมมือประชาชนอย่าเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าว เพราะอาจมีความผิดตามมาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ด้วย