ตำรวจยันอีกครั้ง ปืนในห้องยามบนตึกร้าง ถ.บรรทัดทอง เป็นบีบีกัน เจ้าของห้องปัดเป็นเจ้าของปืน ด้าน ผกก.ตำรวจอีโอดีชี้ระเบิดถูกโยนจากบนตึก ไม่ใช่จากรถเพราะคนขับเสี่ยงโดนระเบิดด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าว
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.เก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. พ.ต.ท.ธีรนันท์ นคินพงษ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 2) กลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ร่วมกันแถลงยืนยันว่าวัตถุพยานที่พบในห้องพักบนอาคารร้าง ถนนบรรทัดทอง ใกล้จดเกิดเหตุระเบิดวานนี้ เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือบีบีกัน ที่ผู้ที่เคยสัมผัสอาวุธปืนเช่นนี้จะรู้ในทันที่ว่าเป็นสิ่งเทียม ทั้งเนื้อพลาสติกและน้ำหนักที่ต่างกันมาก โดยระหว่างการนำของกลางมาตรวจสอบที่ สน.ปทุมวัน มีตัวแทนของ กปปส.ร่วมนำของกลางไปด้วย ยืนยันว่าเป็นชุดเดียวกันกับที่มีการแถลงที่จุดเกิดเหตุ
พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า จากการสอบสวนเจ้าของห้องยืนยันว่าปืนที่พบไม่ใช่ของตน ไม่เคยมีในห้อง มีเพียงวิทยุสื่อสารและหมวกสีแดงเท่านั้นที่เป็นของในห้อง
พ.ต.อ.กำธรกล่าวว่า ตอนนี้การตรวจวิถีการขว้างระเบิดต้องการหลักฐานสำคัญ นั่นคือกระเดื่องระเบิด ที่ตอนนี้อยู่กับทหาร ระเบิดที่ใช้ เป็นระเบิดชนิดขว้างอาร์จีดี 5 ของโซเวียตหรือไม่ก็จีน อานุภาพทำล้างฉกรรจ์ 6 เมตร ทั้งนี้มองว่าน่าจะมีการขว้างจากด้านบนไม่น่าจะขว้างจากรถตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะหากโยนจากรถคนขับจะเสี่ยงชีวิตมากที่จะถูกระเบิด อย่างไรก็ตาม ตนเป็นชุดที่เข้าที่เกิดเหตุในตอนที่มีการแถลงเรื่องของกลางได้ตั้งข้อสังเกตแล้วว่าอาจเป็นของปลอม เป็นบีบีกัน ซึ่งจากอุปกรณ์ที่พบก็ไม่สามารถใช้ยิงได้เพราะขาดชุดลั่นไก
พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ศอ.รส.เปิดเผยว่า ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผอ.ศอ.รส.ทำหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทยและ กทม.ให้ช่วยส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเจรจาเปิดพื้นที่จราจรจากผู้ขุมนุม เพื่อแก้ปัญหาจราจร โดยให้แจ้งผลการดำเนินการแก่ ศอ.รส.ด้วย