รัฐบาลตีสองหน้า “ยิ่งลักษณ์” ทำห่วงเหตุบึมขบวน กปปส.บรรทัดทอง บอกไม่เห็นด้วยใช้ความรุนแรง สั่งตำรวจสืบสวน ขอร้องม็อบให้เข้าไปทำงานด้วย “สุรพงษ์” ข้องใจ “สุเทพ” ไปเส้นทางตึกร้างทำไม อ้างตำรวจประเมินเรียกร้องความสนใจ เชื่อเดี๋ยวมีอีก
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ปาระเบิดเข้าใส่ขบวนของผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ที่ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน ว่า เป็นห่วงสถานการณ์และไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังรุนแรง ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วไม่ว่าจะเป็นใคร เราต้องเร่งช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า เราได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคงให้คอยดูแลประชาชน แต่เบื้องต้นคงต้องขอความร่วมมือกับทางผู้ชุมนุมด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำงาน เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถที่จะไปดูแลได้
เมื่อถามว่า ม็อบกล่าวหาว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น นายกฯ กล่าวย้ำว่า ตนไม่สนับสนุนการใช้กำลังรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น และยินดีที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในทุกกรณี
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์จัดทำแผนและประสานงาน ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่าเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พยายามที่จะกล่าวหาว่ารัฐบาลมีส่วนรู้เห็น ซึ่งรัฐบาลขอปฏิเสธ และไม่มีนโยบายทำให้ผู้ชุมนุมประท้วงได้รับบาดเจ็บ หรือใช้การกระทำที่รุนแรงกับผู้ชุมนุมประท้วง
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับการชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด ซึ่งข้าราชการตำรวจที่ดูแลด้านความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมก็ไม่มีอาวุธ ตนอยากถามนายสุเทพ กลับว่า เส้นทางที่เดินไปเชิญชวนคนมาร่วมชุมนุม เหตุใดถึงจึงเปลี่ยนเส้นทางไปในเส้นทางที่เป็นตึกร้าง นายสุเทพ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ถ้าจะไปเชิญชวนมาร่วมในการชุมนุมทำไมต้องเดินไปบริเวณที่เป็นตึกร้าง ไม่มีผู้คนอาศัย
“ทางตำรวจได้ประเมินเหตุที่เกิดขึ้นอีกว่า นายสุเทพ อาจจะเรียกร้องความสนใจ โดยอาจจะมีสถานการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จึงได้กำชับให้มีการเฝ้าระวังเข้มงวดขึ้น และกำชับให้ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนให้เร็วที่สุด” นายสุรพงษ์ กล่าว