xs
xsm
sm
md
lg

“ปึ้ง-ตำรวจ” แถลงระเบิดบรรทัดทองม็อบโยนกันเอง! อ้างทำเพื่อใส่ร้ายรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ (ภาพจากแฟ้ม)
ศอ.รส.แถลงข่าว อ้างเหตุระเบิดบรรทัดทองไม่ได้โยนมาจากตึกร้าง สายไฟเยอะ เล่าเป็นฉากมีม็อบเดินเร็ววางระเบิดแล้วหลบเข้ากำบัง ป้ายสีคนขับรถกระบะเดินเข้าไปหาหลังบึ้ม แถมมีอีกสองคนทำลายหลักฐาน โบ้ยสร้างสถานการณ์ให้ตำรวจบ้อท่า ใส่ร้ายรัฐบาล ก่อนตบท้ายแสร้งทำเป็นเสียใจและประณามตามระเบียบ

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เมื่อเวลา 13.30 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแล ศอ.รส. และ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนเหตุปาระเบิดใส่ขบวน กปปส.ที่ถนนบรรทัดทองว่า หลังเกิดเหตุทาง ศอ.รส.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวน หาข้อเท็จจริงและหาตัวคนร้ายที่ปาระเบิดมาลงโทษโดยเร็ว ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังที่ กปปส.ให้ความร่วมมืออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าในพื้นที่ได้ และเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งอาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ก็ปรากฎข้อเท็จจริงและข้อมูลที่เกิดขึ้งกับเหตุปาระเบิดครั้งนี้หลายประการ

“ศอ.รส.ใคร่ขอวิงวอนให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงได้ระมัดระวัง และควรเฝ้าจับตามองบุคคลแปลกปลอมที่ไม่ประสงค์ดีและพยายามสร้างสถานการณ์หรือก่อเหตุร้ายในระหว่างการชุมนุม หากพบเห็นความผิดปกติขอให้เก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบด้วย” นายสุรพงษ์กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า จากสถานการณ์ปาระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาถือเป็นการกระทำที่รุนแรงและโหดเหี้ยม หลังจากเกิดเหตุมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่แต่ละฝ่ายได้รับ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรจที่เป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมายได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ โดยได้ดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามหลักวิชาการและหลักกฎหมาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หาข้อเท็จจริงด้วยการเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ การสอบสวนพยานบุคคล การตรวจสอบพยานวัตถุต่างๆ รวมถึงภาพเหตุการณ์ที่บันทึกไว้จากกล้องซีซีทีวีในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อเท็จจริง ดังนี้

1. จุดที่ตรวจพบปืนอัดลม หรือบีบีกัน อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ดังนั้นจุดที่ตรวจพบปืนที่เป็นของเล่นดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นจุดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ 2. การสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าไปถึงพื้ที่ดังกล่าวได้ทันที เนื่องจากการ์ด กปปส.กันตัวออก โดยอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารเท่านั้น จนเวลาผ่านไประยะหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ 3. จากการสำรวจบริเวณพื้นที่เกิดเหตุพบว่า โอกาสที่ระเบิดจะถูกโยนจากอาคารโดยรอบมายังจุดระเบิดเป็นไปได้ยาก หากโยนจากอาคารดังกล่าวจริงโอกาสที่ระเบิดจะโดนสิ่งกีดขวางมีสูง เพราะวิถีของระเบิดที่มาจากที่สูงจะมีต้นไม้และสายไฟเป็นอุปสรรคขัดขวาง จากการตรวจสอบภาพวิดีโอและกล้องซีซีทีวี และจากภาพวิดีโอที่บันทึกไว้จากสื่อมวลชนขณะเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามรถยืนยันข้อเท็จจริงและไม่สามารถแต่งเติมได้ เพราะเป็นภาพเหตุการที่ปรากฏอยู่ทั่วไปและปรากฏหลักฐานชัดเจน

“บริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นระเบิดเป็นพื้นที่ว่าง ดังนั้นการเกิดระเบิดหากมีวัตถุสิ่งใดตกมาที่พื้นย่อมต้องสามารถมองเห็นได้ แต่จากการตรวจสอบภาพวิดีโออย่างละเอียดพบว่าไม่มีวัตถุตกลงมาที่พื้นเลย ดังนั้นเชื่อได้ว่าไม่มีผู้ใดโยนระเบิดมาจากที่สูง และจากการตรวจสอบภาพวิดีโออย่างละเอียด ตรวจพบชายต้องสงสัยสวมหมวกสีขาวเดินเร็วมาจากท้ายขบวนและมีพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นผู้ก่อเหตุ โดยหลังจากวางระเบิดแล้วตนเองได้หลบเข้าที่กำบัง ซึ่งเป็นตู้เหล็กชุมสายโทรศัพท์จากนั้นเกิดระเบิดขึ้น และหลังจากเหตุระเบิดชายคนขับรถกระบะได้วิ่งออกจากรถเข้าไปหาชายสวมหมวกขาวที่หลับอยู่หลังตู้เหล็กชุมสายโทรศัพท์ และหลังเกิดเหตุจากภาพวิดีโอที่ปรากฏพบว่ามีชายต้องสงสังทั้งสองคนเดินเข้าไปเก็บวัตถุบางอบ่างในจุดใกล้ระเบิดโดยไม่สนใจคนเจ็บที่นอนอยู่รอบๆ แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติการครั้งนี้มีการทำงานเป็นทีม ฉะนั้น จากที่รายงานแสดงให้เห็นว่าการก่อเหตุครั่งนี้เป็นการกระทำของกลุ่มที่เดินทางร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาพยายนหลักฐานนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด” พล.ต.ต.อดุลย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าผู้ชุมนุมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ยืนยันได้ มีทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจน เบื้องต้นมี 2 คนในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นต้องสงสัย

ด้านนายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลขอยืนยันเหตุการณ์ระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง เป็นการสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาเพื่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง โดยมีเป้าหมายคือทำให้ประชาชนคนบริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เป็นการมุ่งร้ายต่อแกนนำอย่างที่มีความพยายามสร้างเรื่องและบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ และพื้นที่เหตุการณ์และห้วงเวลาที่เกิดเหตุตำรวจผู้รับผิดชอบไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากแกนนำ กปปส. เหตุการณ์ลักษณะนี้เห็นได้ว่ามีความพยายามที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์และเก็บหลักฐานต่างๆ ได้ ก็แสดงให้เห็นได้ว่ามีกลุ่มไม่ประสงค์ดีที่ร่วมในการชุมนุมพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อกล่าวหาใส่ร้ายต่อรัฐบาล

“รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขอประณามการกระทำผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้” นายสุรพงษ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น